ต้องเร่งแก้เศรษฐกิจ
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
ต้องเร่งแก้เศรษฐกิจ : เป็นเรื่องเศร้าสลดอย่างยิ่งสำหรับกรณีคู่สามีภรรยาที่จ.ชลบุรี ตัดสินใจลาโลก ด้วยการกุมมือกันผูกคอฆ่าตัวภายในร้านชำของตัวเอง
ทิ้งไว้เพียงจดหมายถึงลูกชาย ระบุถึงความเหนื่อยล้าของชีวิต
พร้อมกำชับให้ลูกชายไม่ต้องจัดพิธีศพอะไรมากมาย สวดเพียงวันเดียวแล้วเผาเลย กระดูกก็ไปลอยอังคารให้หมด ไม่ต้องเก็บ ไม่ต้องมีพันธะอะไรไว้
เพราะเกรงจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายของลูกหลาน
เมื่อสอบถามกับญาติของครอบครัว ก็เลยรู้ว่าปัญหาก็คือเรื่องที่ร้านของชำที่เปิดค้าขายได้ไม่ดี จนชักหน้าไม่ถึงหลัง
ต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากกลุ่มเงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยสุดโหด จ่ายกันเป็นรายวัน
จนสุดท้ายหาทางออกไม่ได้ต้องจบลงด้วยความตาย
ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกรณีเสี่ยร้านชาบูรมควันตัวเองเสียชีวิตทั้งครอบครัว เพราะสู้พิษเศรษฐกิจไม่ได้
และคงไม่ใช่รายสุดท้าย!??
กลายเป็นประเด็นคำถามว่าความเสื่อมถอยทางเศรษฐกิจของประเทศ มันมาถึงจุดย่ำแย่ขนาดนี้ได้อย่างไร
เพราะก่อนที่นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกมายอมรับว่ามีปัญหาเศรษฐกิจนั้น คนอย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มือเศรษฐกิจตั้งแต่รัฐบาลคสช. กลับพร่ำบอกทุกวันว่าเศรษฐกิจดี เศรษฐกิจโตอยู่เลย พร้อมยกตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจมายืนยัน
มันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร
หรือที่เศรษฐกิจดีมันอยู่ในเฉพาะพวกเจ้าสัว–นายทุน
แต่ระดับชาวบ้านบาดเจ็บกันทั่วหน้า!??
หากเป็นเช่นนี้แล้วรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะการงัดเงิน 3.1 ล้านบาท มาแก้เศรษฐกิจ
แจกเงินให้ไปเที่ยว อัดเงินเข้าบัตรคนจน
ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แก้ปัญหาไม่ถูกจุด แถมยังสร้างหนี้ให้กับประเทศโดยเปล่าประโยชน์
แทนที่จะฟื้นกลับยิ่งพังขึ้นไปอีก หรือถ้านี่เป็นผลงานที่สุดฝีมือแล้วของรัฐบาล
อย่างนั้นก็น่าสงสารประชาชน