ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย รุก กลางกระดาน

 

ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งสำหรับสถานการณ์ ความไม่สงบในจังหวัดชายแดน ภาคใต้

แม้ว่าจะมีการตั้งครม.ส่วนหน้าให้ลงไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเอาจริงเอาจัง ทุ่มเทงบประมาณ รวมทั้งการเดินหน้าเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพ

เบื้องต้นสภาพการณ์ดูน่าจะไปในทิศทางที่ดีแต่แล้วก็กลับตาลปัตร

แถมเป็นสถานการณ์ที่กลุ่มก่อการบุกเข้าถล่มพื้นที่ของเจ้าหน้าที่โดยตรง แทนที่จะเป็นการก่อการร้ายยิบย่อยรายวัน

ไล่ตั้งแต่เหตุการณ์กลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน นั่งปิกอัพบุกยิงถล่มสภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ในช่วง 8 โมงเช้า ขณะที่ เจ้าหน้าที่กำลังเคารพธงชาติ

ส่งผลให้ตำรวจเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 5 คน

ต่อด้วยคนร้ายอาวุธสงครามครบมือ บุกถล่มจุดตรวจกรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา จนมีผู้บาดเจ็บ 12 ราย

ไม่พอแค่นั้น ยังเกิดเหตุบึ้มเผาป่วนเมืองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 32 จุด เสาไฟฟ้าพังถึง 52 ต้น 12 อำเภอมืดทั้งเมือง

ส่งผลให้เกิดคำถามว่าเพราะเหตุใดกันแน่จึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

ซึ่งข้อสังเกตของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่สงสัยว่าอาจเกี่ยวพันกับการประกาศใช้รัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร

พุ่งเป้าไปที่เรื่องการเมือง!??

อย่างไรก็ตามมีข้อมูลจากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งระบุว่าปฏิบัติการครั้งนี้จริงๆ แล้วมุ่งที่จะตอบโต้ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไปลงมือวิสามัญฆาตกรรม 2 ศพ ที่อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยจนท.ระบุว่า ขณะขอตรวจค้นชายต้องสงสัย 2 คนที่ขับรถมาจากยะลา แต่คนร้ายหลบหนี แล้วใช้ปืนยิงถล่ม ต่อสู้กันจนต้องจับตาย

แต่ข้อมูลของญาติผู้เสียชีวิตกลับไม่ใช่เช่นนั้น โดยน้องสาววัย 15 ของ 1 ใน ผู้ตายระบุว่านั่งรถมาด้วยกัน และถูกจนท.เรียกให้ลงจากรถ ก่อนดึงตัวไปข้างหลัง

จากนั้นก็เกิดเสียงปืนดังสนั่น แล้วทั้งคู่ก็กลายเป็นศพอยู่ข้างรถ

ถือเป็นข้อมูลอีกฝั่ง ที่จนท. โดยเฉพาะ ครม.ส่วนหน้า ต้องคลี่คลายข้อเท็จจริงให้ได้เร็วไว

ไม่ให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว จนส่งผลทำลายสันติภาพไปเสียสิ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน