เลื้อยเข้าพรรคไหน
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
เลื้อยเข้าพรรคไหน : พรรคอนาคตใหม่ เอาจริงกับส.ส. ที่ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค โหวตสวนทางหลายครั้ง ในการประชุมสภาที่ผ่านมา ต่างกรรมต่างวาระกัน
อ้างเป็นเอกสิทธิ์ส.ส.บ้าง รวมถึงอ้างอย่างอื่น เพื่อสร้างความชอบธรรมให้การกระทำของตัวเอง
ที่ประชุมใหญ่วิสามัญของสมาชิก จึงลงมติด้วยเสียงส่วนใหญ่ 250 ต่อ 5 เสียง ให้ขับออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งตาม ข้อบังคับจะต้องเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคตัดสินอีกครั้ง
ต่อมาที่ประชุมร่วมกรรมการบริหาร และส.ส.พรรคอนาคตใหม่ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ส.ส.ทั้ง 4 คนสิ้นสุดการเป็นสมาชิกของพรรค
ประกอบด้วย น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8, นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี เขต 2, พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี เขต 1 และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7
แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เปิดช่องไว้ให้ในมาตรา 101(9) ถ้าหาพรรคใหม่สังกัดได้ภายใน 30 วัน ก็จะยังไม่พ้นสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ล่าสุด เป็นที่แน่ชัดแล้วว่านางศรีนวลนั้น แน่นวลไปซบพรรคภูมิใจไทยของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยแอบไปพบ ไปหาหลายครั้ง แม้แต่ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายอนุทินเองก็ชื่นชมอย่างออกหน้าว่านางศรีนวลเป็นคนน่ารัก เจอกันก็อู้คำเมือง แถมซื้อน้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว และแคบหมู มาฝากสม่ำเสมอ
สำหรับน.ส.กวินนาถ ส.ส.พัทยา โนเนมที่เข้าสภามาได้ ไม่น่าจะด้วยความนิยมส่วนตัว ตกลงใจไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมงานกับกลุ่มชลบุรี ที่แกนนำคนดังให้ความเอื้อเฟื้อลับๆ
อีก 2 คนจากจันทบุรี พ.ต.ท.ฐนภัทรและนายจารึก ไปเข้าพรรคชาติไทยพัฒนา บ้านปลาไหลของ “หนูนา” กัญจนา ศิลปอาชา
ทำให้มีเพิ่มอีก 2 เสียง หลังจากชนะเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐมมาด้วย ก็รวมเป็น 3 เสียง
เป็นพรรคอันดับ 4 ที่เสียงเกิน 10 เวลาจะพูดอะไรหรือต่อรองสิ่งใดก็คงมีน้ำหนักมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า ส.ส.ทั้ง 4 คนนี้ เป็นงูเห่าที่มีความผิด ถูกขับออกมาจากสังกัดเดิม
รัฐบาลอาจได้เสียงเพิ่ม แต่จะได้ใจจากชาวบ้านหรือไม่ อันนี้กาลเวลาจะพิสูจน์เอง
เภรี กุลาธรรม