แก้ปัญหาทางด่วน

แก้ปัญหาประชาชน

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…รุก กลางกระดาน

แก้ปัญหาทางด่วน – ได้ข้อยุติไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับมหากาพย์ข้อพิพาททางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM)

เมื่อครม.มีมติอนุมัติให้ต่ออายุสัมปทานทางด่วนอีก 15 ปี 8 เดือน แลกกับจบข้อพิพาท 17 คดี ซึ่งคิดเป็นมูลค่าถึง 1.3 แสนล้านบาท

ซึ่งผลของการตัดสินใจครั้งนี้ คนที่โล่งใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นรัฐบาล ที่สามารถจบปัญหา ไม่ต้องถูกครหาว่าเป็นรัฐบาลที่ทำให้ประเทศต้องรับภาระค่าโง่อีกครั้ง

เพราะกรณีนี้ก็เห็นได้ชัดตั้งแต่ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้กทพ.ชดเชยความ เสียหาย 4.3 พันล้าน ในกรณีผิดสัญญาเรื่องสร้างทางแข่งขัน ก็เป็นแนวทางไว้แล้วว่าหากต่อสู้อีก 17 คดีที่เหลือ ผลสรุปจะเป็นอย่างไร

ที่สำคัญคือความพยายามเจรจาของกระทรวงคมนาคม ที่สามารถลดทอนเวลาขยายสัมปทาน จากเดิมที่ตกลงกันไว้ในเวลา 30 ปี เหลือ 15 ปี 8 เดือน

ก็ยิ่งทำให้สามารถรักษาผลประโยชน์ของกทพ.ได้มากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น การจบปัญหาทั้งหมด ยิ่งทำให้พนักงานกทพ.ส่วนใหญ่โดยเฉพาะพนักงานชั้นผู้น้อย มีขวัญและกำลังใจ รับรู้แนวทางนโยบายขององค์กร

ไม่ต้องกังวลว่าผลพิพาทครั้งนี้จะกระทบต่อสิทธิประโยชน์ ก็ทำงานได้อย่างไม่ต้องมีข้อกังวล ย่อมส่งผลดีต่อองค์กร และประเทศชาติในภาพรวม

อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านข้อวิตกกังวลเหล่านี้ไปได้แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของกทพ.จะต้องเดินหน้ากับภารกิจหลักของตัวเอง

นั่นก็คือการอำนวยการจราจร แก้ไขปัญหาของผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองกรุงให้ได้เสียที

เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซากของคนใช้ทางด่วนก็คือขึ้น ‘ทางด่วน’ แล้ว ‘ไม่ด่วน’ จริง

ไม่ว่าจะเป็นการติดขัดที่ช่องชำระค่าบริการ คอขวดบนทางด่วน จุดตัด จุดแยก ทางลงหรือกระทั่งผิวการจราจรที่ไม่เพียงพอโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน

ทั้งหมดเป็นปัญหาที่ต้องเร่งหาวิธีแก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นหากประชาชนเบื่อหน่าย รวมกับทางเลือกการเดินทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน บนดิน ที่เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น

อาจทำให้กทพ.กลายเป็นองค์กรล้าหลัง

จึงต้องย้ำให้ชัดๆ แก้ปัญหาองค์กรตัวเองแล้ว ต้องแก้ปัญหาของประชาชนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน