ยุทธศาสตร์ และยุทธวิธี

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…รุก กลางกระดาน

ยังเป็นปัญหาวิกฤตที่ต้องเผชิญ สำหรับการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพอนามัย วิถีชีวิต และสภาพทางเศรษฐกิจ

จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างจริงจัง ด้วยการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือควบคุมสถานการณ์

ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ เพราะการขอความร่วมมือเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ไม่เช่นนั้นเราคงไม่เห็นบรรดาส.ส. จัดงานเลี้ยงวันเกิดกันอย่างคึกคัก คนร่วมงานเป็นพัน

หรือติดเชื้อจากสนามมวย ที่กลุ่มนี้สูงที่สุดในประเทศ หากสนามมวยลุมพินี ที่บริหารโดยกองทัพบก เชื่อคำเตือนของการกีฬาแห่งประเทศไทย

เมื่อไม่เชื่อฟัง ไม่ให้ความร่วมมือ มาตรการเข้มข้นก็ต้องบังคับใช้

เพียงแต่สิ่งสำคัญ ที่รัฐบาลควรจะอธิบายให้ประชาชนรับทราบ นั่นก็คือยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีที่จะรับมือวิกฤตที่เกิดขึ้น

กำหนดยุทธศาสตร์ให้ชัด สื่อสารให้รู้ว่าในสภาวะแพร่ระบาด เราทำได้เพียงป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อเพิ่มรวดเร็ว จนเกินกำลังบุคลากรทางการแพทย์

เพื่อรอให้โลกนี้คิดค้นวัคซีนสำเร็จ

ซึ่งจะนำไปสู่ยุทธวิธีที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องการเว้นระยะห่าง การไม่เดินทางข้ามเขตจังหวัด อันจะเป็นเงื่อนไขให้การแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ตามยังน่าเป็นห่วงว่าจริงๆ แล้วรัฐบาล หรือกระทั่งศูนย์โควิด เข้าใจปัญหาและการแก้ปัญหาจริงหรือไม่

เพราะการระดมเอาเจ้าหน้าที่ออกไป ตั้งด่าน เพียงเพื่อสกัดไม่ให้คนเดินทาง อาจเป็นจุดที่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ขึ้น

ไม่ว่าโอกาสติดเชื้อเพิ่มเพราะขาดชุดป้องกันและหน้ากากอนามัย รวมทั้งความรู้ความเข้าใจของโรค

ไปมุ่งเน้นภารกิจที่ไม่เกิดประโยชน์ แทนที่จะมุ่งมั่นในภารกิจหลัก

นั่นก็คือการจัดหาเครื่องมือป้องกันสำหรับแพทย์ หน้ากากอนามัยที่เพียงพอสำหรับประชาชน

ชุดตรวจเชื้อที่แม่นยำ ปูพรมตรวจให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ให้ได้ผลรวดเร็ว เพื่อจะได้วางแผนรับมือให้ได้ทันท่วงที

เอาเท่านี้ให้ได้ก่อน ประชาชนก็จะ อุ่นใจ

อย่าให้กลายเป็นว่ามีเครื่องมือ แต่ไม่รู้จักใช้ มันจะแย่กันไปหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน