ผลพลอยได้ กักสื่อทำเนียบ
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…มันฯ มือเสือ
ผลพลอยได้ กักสื่อทำเนียบ – ไม่มีเหาหาเหาใส่หัว ไม่มีเรื่องหาเรื่องให้โดนด่าฟรี
เห็นข่าวในโซเชี่ยลก่อนวันประชุมครม.อังคารที่ผ่านมา
กรณีกระทรวงกลาโหมเตรียมเสนอ ครม.อนุมัติกองทัพเรือดำเนินการเกี่ยวกับโครงการจัดหาเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ 1 ลำ งบประมาณ 6,100 ล้านบาท
นึกว่าเป็นเฟกนิวส์
เพราะในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้เสียชีวิตแล้วเกิน 10 ราย กับยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่าหลักร้อยในแต่ละวัน และมีสัดส่วนการแพร่ระบาดไปยังต่างจังหวัดทั่วประเทศมากขึ้น
กระทรวงกลาโหมที่มีนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งควบเป็นรัฐมนตรีว่าการ คงไม่ทำเรื่องผิดกาลเทศะแบบนี้แน่
แต่เอาเป็นว่าประเมินความทะเล่อทะล่าของรัฐบาลผิดไป ปรากฏว่ากระทรวงกลาโหมพยายามผลักดันเรื่องนี้เข้าครม.จริง แบบไม่อยากจะเชื่อ
โฆษกกองทัพเรือชี้แจงว่า โครงการนี้ผ่านอนุมัติและทำสัญญากับจีนตั้งแต่เดือนพ.ย.2562 ส่วนที่เข้าครม.วันนี้ (31 มี.ค.) เกี่ยวกับเรือ เช่น การส่งคณะกรรมการไปตรวจแบบเรือ การเตรียมส่งทหารไปฝึกหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายแล้ว
ถึงอย่างนั้นก็เหอะ สิ่งที่กลาโหมและกองทัพเรือไม่ได้ตอบสังคมก็คือ
มันใช่เวล่ำเวลาจะมาเสนอขออนุมัติตอนนี้มั้ย? พักระงับไว้ก่อนไม่ได้หรือ?
ผลคือโดนโลกโซเชี่ยลถล่มเละเป็นโจ๊ก
สุดท้ายต้องถอย ยอมถอนเรื่องออกจากที่ประชุม ครม.
เสียดายนักข่าวสายทำเนียบรัฐบาลได้รับการร้องขอก่อนหน้านั้น 1 วัน ไม่ให้เข้ามาทำข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลโดยอ้างเรื่องความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด
ไม่อย่างนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นทั้ง นายกฯและรมว.กลาโหม คงโดนนักข่าวรุมตั้งคำถามซักไซ้ไล่บี้แบบซึ่งหน้า
สรุปคือ การขอให้นักข่าวกลับไปกักตัวที่บ้าน 14 วัน โดยเอาเรื่องโรคโควิดมาเป็นเหตุ
น่าจะช่วยให้รัฐบาลหายใจคล่องขึ้นเยอะ