บิ๊กแดงสับสวิตช์เอง
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…เภรี กุลาธรรม
บิ๊กแดงสับสวิตช์เอง – กรณีกรมสรรพาวุธทหารบก เผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
อ้างตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี และประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง และของหน่วยงานของรัฐ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2563
นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดเอกสารแนบท้ายว่าเป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ยานเกราะล้อยาง พร้อมระบบอาวุธ และการบริการเทคนิค จำนวน 50 คัน โดยวิธี FMS (Foreign Military Sales) งบประมาณโครงการ 4,515,000,000 บาท
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางภายในชั่วข้ามคืน พุ่งเป้าไปที่กองทัพบกชนิดทัวร์ลง
ก่อนหน้านี้ กรณีการจัดซื้อเรือยกพลขึ้นบกจำนวน 6,100 ล้าน ที่กองทัพเรือจะดำเนินการ ก็โดนประชาชนตำหนิไปหนหนึ่งแล้ว
ส่วนใหญ่มองว่าการจัดซื้อรถถังยังไม่มีความเหมาะสม บางคนก็เสนอให้ยกเลิก ไปเลย
เพราะในช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนัก ประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
อีกทั้งรัฐบาลกำลังตัดงบทุกกระทรวงอย่างน้อยหน่วยงานละ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อย้ายมาใช้แก้ปัญหา
แต่ปรากฏว่าเกิดเรื่องแบบนี้ทะลุกลางปล้องขึ้นมา
โดยเฉพาะในโลกออนไลน์นั้น ดุเดือดอย่างหนักในทางที่ไม่เห็นด้วย เทรนด์ทวิตเตอร์ ถึงขนาดติดแฮชแท็ก#ยานเกราะพ่องง ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ทีเดียว
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล ถึงขนาดคำนวณออกมาว่าเงินที่จะใช้ซื้อรถถังจำนวน 4.415 พันล้านบาทนั้น ถ้านำมาใช้แก้ปัญหาโควิด-19 จะทำอะไรได้บ้าง
โดยระบุว่าสามารถเยียวยา 5,000 บาท ได้ 301,000 คน ประกอบอาหารเลี้ยงประชาชนจำนวน 2.35 ล้านคน ได้ 1 เดือนเต็ม โรงพยาบาลสนาม 16,010 เตียง เครื่องช่วยหายใจ 5,311 เครื่อง เครื่องผลิตออกซิเจน 112,875 เครื่อง ชุดพีพีอี 9.4 ล้านชุด หน้ากากฯ 1,806 ล้านชิ้น
น่ายินดีที่มีข่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้ตัดงบประมาณปี 2563 ของกองทัพบกแล้วกว่า 30% นำเงินคืนคลัง เพื่อให้รัฐบาลนำไปช่วยแก้ปัญหาจากโควิด-19
นอกจากนี้ ยังชะลอโครงการจัดหายุทโธปกรณ์อีกหลายโครงการ
รวมถึงการจัดซื้อรถยานเกราะสไตรเกอร์ ที่เดิมทีเป็นโครงการในปีงบประมาณ 2563 ไปเป็นโครงการของปีงบประมาณปี 2564-2565 ด้วย
เป็นการสับสวิตช์ลง ตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้ลุกลามออกไป!!