คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม : เลิกพรก.ฉุกเฉินสักที – โดย…รุก กลางกระดาน

เลิกพรก.ฉุกเฉินสักทียังคงถูกทวงถามอยู่ตลอดเวลา สำหรับการยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่ารัฐบาลจะได้ฤกษ์ประกาศยกเลิกเมื่อใด

เพราะสถานการณ์โควิด ที่อ้างว่าเป็นห่วงนักเป็นห่วงหนา ก็เบาบางลงอย่างชัดเจน ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันมาร่วมเดือน

ประชาชนเองก็ปรับตัวรับวิถีชีวิตใหม่ หรือนิวนอร์มอล กันอย่างกว้างขวาง

อีกทั้งยังไม่รู้ว่าพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นจะสามารถใช้ควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร

เพราะเท่าที่เห็น กลับถูกใช้ไปเป็นเครื่องมือควบคุมการแสดงความเห็นต่างทางการเมือง รวมทั้งสกัดกั้นกิจกรรมของนักศึกษา ที่เรียกร้องให้รัฐบาลคลี่คลายข้อสงสัยการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

ดังที่เกิดขึ้นกับนักศึกษากลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ถูกหมายเรียกในคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่ยกเรื่อง โควิดมาบังหน้า แล้วใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือ!!

ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่าไม่เป็นผลดีเลยกับรัฐบาล เพราะถึงแม้จะเป็นรัฐบาลได้แม้จะแพ้เลือกตั้ง ไม่ได้เสียงส.ส.อันดับ 1 แต่รวมเสียงบัตรเขย่งได้ส.ส.พรรคเล็กมาร่วมทีม หรือพึ่งพากลไกส.ว.เลือกตัวนายกรัฐมนตรี ก็ตาม

แต่รัฐบาลนี้ก็อวดอ้างว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง

ดังนั้นการรับฟังความเห็นต่าง หรือรับรองถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนล้วนแต่เป็นเรื่องพื้นฐานของประชาธิปไตย

การหลีกเลี่ยงหรือสกัดกั้น ย่อมส่งผลให้ข้อครหาการสืบทอดอำนาจเผด็จการเด่นชัดขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือประชาชน ที่แสดงความเห็น หากพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรม ก็จะเห็นได้ว่าล้วนเต็มไปด้วยความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง

หากรับฟังและนำไปปฏิบัติย่อมก่อให้เกิดประโยชน์

พูดมาเสียเยอะแล้วว่าเป็นประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง ช่วยทำให้เห็นสักอย่างว่าเป็นอย่างนั้นจริง

เริ่มต้นด้วยการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้เสียก่อน หากเป็นอย่างที่พูดจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน