ถึงเวลา‘ปลดแอก’ : เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว สำหรับการชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่ใช้ชื่อว่า ‘เยาวชนปลดแอก’
หลังจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันก่อน และเกิดแฟลชม็อบขึ้นอีกหลายพื้นที่
จะจุดติดกลายเป็นม็อบขับไล่รัฐบาลสืบทอดอำนาจคสช. หรือจะแค่ม็อบมุ้งมิ้ง ตีกันเองจนเลิก เหมือนที่รองโฆษกหญิงกองทัพบกปรามาสไว้ ก็คงต้องรอดูกันต่อไป
แต่สิ่งที่น่าสนใจแล้วนำไปคิดตาม นั่นก็คือข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง นั่นก็คือ 1.หยุดการคุกคามประชาชน 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3.ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน
ก็ดูจะฟังเข้าเค้า!!
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุกคามประชา ชน ซึ่งแม้ไม่ต้องเรียกร้อง ก็ไม่ควร เกิดขึ้น
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการอุ้มหายของ นักกิจกรรม หรือการจับขังฟ้องคดีผู้ที่เห็นต่าง
เอาแค่เรื่องเยาวชนที่จ.ระยอง เพียงแค่ชูป้าย 2 แผ่น แสดงความเห็นที่เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาลของศบค. ก็บ้าจี้ถึงขั้นอุ้มขึ้นรถ แถมจะแจ้งถึง 4 ข้อหาหนัก
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคนระดับนายกฯ ไม่ออกมาห้ามปราม ก็คิดได้แต่เพียงว่า เห็นด้วยและสนับสนุนการกระทำ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็แถลงเป็นนโยบาย จนมีกมธ.วิสามัญพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้น เบิกเบี้ยประชุมทำงานกันไปแล้วก็พอสมควร
แล้วบอกเล่าเก้าสิบความคืบหน้าให้ประชาชนเจ้าของเงินเขารับทราบได้มากน้อยเพียงใด
หรือตั้งมาไว้เป็นไม้กันหมา กันคนด่าไปอย่างนั้น
ส่วนเรื่องยุบสภา หากแก้ไขรัฐ ธรรมนูญเสร็จ กติกาที่ยอมรับได้ ในสังคม ก็สมควรคืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นผู้เลือก
อย่ามาอ้างว่าสภาไม่ผิด แล้วทำไมต้องถูกยุบ
ควรถามว่าบ้านเมืองที่ถึงทางตัน เศรษฐกิจพังพินาศ ประชาชนถูกกดขี่ สภานี้ทำอะไรบ้าง
แค่คุมองค์ประชุมไม่ให้สภาล่มยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ
และที่สำคัญตอบใจตัวเองด้วยว่ารัฐบาลที่อ้างว่าเสียงข้างมากชนะ เลือกตั้งมาจริงแล้วใช่ไหม
อย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยคือพรรคที่ได้ส.ส.อันดับ 1
ถ้าไม่พึ่งส.ส.ปัดเศษ มียุบพรรค งูเห่าแตกรัง จะเป็นสภาพนี้ได้หรือไม่!??
ถึงเวลา‘ปลดแอก’แล้วหรือไม่
อนาคตจะตอบคำถามนี้อย่างแน่นอน