‘บอส’ผู้บริสุทธิ์ : ทิ้งหมัดเข้ามุม
‘บอส’ผู้บริสุทธิ์ – ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นโดมิโนชิ้นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกระบวน การยุติธรรมไทยหรือไม่
สำหรับการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถเฟอร์รารี่หรูพุ่งชนด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตร.สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555
จนสุดท้ายบทสรุปก็คือการพ้นผิดไร้มลทินของนายวรยุทธ ตามด้วยการเพิกถอนหมายจับทั้งหมด
จนเกิดวลีที่ว่า คุกไทยมีไว้ขังคนจน
ยิ่งเมื่อข้อมูลเปิดเผยว่าสาเหตุที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็เพราะมีพยานปากเอกผุดขึ้นมาอีก 2 ปาก
ยืนยันว่าบอส-วรยุทธ ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมด.ต.วิเชียร เปลี่ยนเลนกะทันหัน เป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุรถชนจนเสียชีวิต
เป็นเหตุผลหลักที่นำมาพิจารณา น่าเสียดายที่ไม่ได้อธิบายข้อสงสัยว่าเหตุใดเมื่อชนแล้วไม่ลงมาช่วยเหลือดูแลเหยื่อ กลับลากไปไกลกว่า 200 เมตรจนสิ้นใจ
แล้วทำไมหลังจากเข้าไปตั้งหลักในบ้าน มีคนรับใช้มามอบตัว สมอ้างเป็นคนก่อเหตุแทน
แถมเมื่อคดีดำเนินไปนายวรยุทธกลับประวิงเวลาเลื่อนนัดศาลถึง 7 ครั้ง จนต้องออกหมายจับ และต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน
ทั้งหมดเป็นข้อข้องใจที่ควรจะทำให้กระจ่าง
และแน่นอนหากเหตุผลที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเป็นจริง ก็เท่ากับว่าบอส วรยุทธ เป็นเหยื่อของกรณีดังกล่าวเช่นกัน และต้องทวงถามความเป็นธรรมให้
อย่างน้อยก็กระทบต่อชื่อเสียงศักดิ์ศรีชีวิตความเป็นส่วนตัว ต้องระหกระเหินใช้ชีวิตร่อนเร่อยู่ต่างแดน
ไหนจะทรัพย์สินอย่างเฟอร์รารี่หรูที่พังยับจากความประมาทของ ด.ต.วิเชียร
จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องออกมาเรียกร้อง ดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายจากกรณีดังกล่าว แม้ด.ต.วิเชียรจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็ยังมีเครือญาติที่ไปไล่เบี้ยได้ต่อไป
หรือกระทั่งหลักฐานในสำนวนที่ระบุว่านายวรยุทธขับรถด้วยความเร็วถึง 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ควรจะเอาผิดฐานสร้างพยานหลักฐานเท็จ
เอาให้ชัดๆ ว่ายุติธรรมไม่ได้เลือกรวยหรือจน ทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
ถ้าไม่รู้จะดำเนินการอย่างไร ก็ขอให้ไปแจ้งความตำรวจและอัยการ
เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว!!
รุก กลางกระดาน