คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ควบคู่กันมาตลอด ระหว่างกระแสชุมนุมใหญ่ 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร
กับกระแสข่าวลือการทำรัฐประหารเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้การชุมนุมโหมประเด็นร้อนทะลุเพดาน
ล่าสุด นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงามส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า
“มีคนเขาเล่าว่า จากงานเลี้ยงรุ่นทหารรุ่นหนึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นรุ่นที่มีอำนาจสั่งการได้ บอกว่าพร้อมเขาจะตัดอำนาจก่อนวันที่ 19 กันยาคาดว่าจะเป็นที่ 17 กันยา”
หลายคนได้ยินได้ฟังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็พานทำให้ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ
ถึงแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯ และรมว.กลาโหม จะยืนยันแข็งขัน ทหารไม่ทำรัฐประหารแน่นอนเป็นเรื่อง “เลอะเทอะ” แถมยังไล่สื่อมวลชนที่ซักถามเรื่องนี้ให้กลับบ้านไปเลย
แต่หลายคนตั้งข้อสังเกต ก่อนทำรัฐประหารพ.ค. 57 พล.อ.ประยุทธ์ขณะนั้นเป็นผบ.ทบ. ก็ให้สัมภาษณ์นักข่าวหลายครั้ง ยืนยันไม่มีการทำรัฐประหาร สุดท้ายก็อย่างที่เห็น
ยกมาสัก 2 ตัวอย่าง
8 ธ.ค.56 พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ไม่ว่าการชุมนุมใหญ่กลุ่ม กปปส. วันที่ 9 ธ.ค.56 จะเป็นอย่างไร ทหารก็จะไม่ออกมาปฏิวัติถ้าทหารปฏิวัติ อีกแก้ปัญหาผิดทางปัญหาอื่นๆ ก็จะเกิดขึ้นอีก ประเทศไทยจะยืนอยู่ในสังคมโลกอย่างไร
7 ม.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวทหารเคลื่อนย้ายกำลังใน ช่วงนั้นเพื่อทำการปฏิวัติว่า ข่าวลือก็เป็นข่าวที่ไม่จริง ดังนั้น ไม่ต้องเชื่อ เรามีการเคลื่อนย้ายกำลังพลทุกปี และนโยบาย ในปี 2557 ของกองทัพบก เป็นการนำพากองทัพไปสู่ความทันสมัยในอนาคต
สัปดาห์ก่อนในการประชุมสภาซักฟอกรัฐบาลโดยไม่ลงมติ นายสุทิน
คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านอภิปรายตอนหนึ่ง พูดถึงกระแสการทำรัฐประหาร จับใจความได้ว่า
วันนี้หากใครคิดยึดอำนาจต้องเรียนรู้สองเรื่อง
เรื่องแรก ประชาชนไม่เหมือนเดิมคนจะตายไม่กลัวใคร เด็กก็ไม่กลัว
เรื่องที่สอง ที่ผ่านมาปี 2549 (รัฐบาลทักษิณ) และปี 2557 (รัฐบาลยิ่งลักษณ์)เป็นการยึดอำนาจในช่วงที่ประเทศเศรษฐกิจดี แต่สุดท้ายก็ยังพาประเทศให้ย่ำแย่
แล้วถ้ายึดอำนาจวันนี้จะเหลืออะไรใครคิดจะยึดอำนาจวันนี้
ไม่สิ้นชาติเลยหรือ!?!
มันฯ มือเสือ