คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ประชุมรัฐสภา 24 กันยาฯ มีมติตั้งกรรมาธิการศึกษาก่อนลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นอกจากเป็นการแหกตาประชาชนและนักการเมืองฝ่ายค้าน
ยังสะท้อนถึงเกมรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของพรรคแกนนำรัฐบาลและส.ว.
ก่อนประชุม 1 วัน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานส.ว. เผลอหลุดปากว่าได้ยินข่าวบางคนเตรียมเสนอให้ตั้งกมธ.
ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าจะเอาจริง
เนื่องจากวิป 3 ฝ่ายตกลงกันดิบดีว่าจะโหวตทันทีหลังอภิปรายเสร็จ
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ชี้ว่าญัตติแก้รัฐธรรมนูญจะผ่าน-ไม่ผ่านอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แต่เพียงผู้เดียวว่าจะส่งสัญญาณอย่างไร ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาอย่างที่เห็น
หลังประชุม 1 วัน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พลังประชารัฐ ออกมายอมรับหน้าชื่นตาบานว่าพรรคพลังประชารัฐคิดแผนนี้สำรองไว้นานแล้ว
มีรายงานข่าวเบื้องหลังเกมเตะถ่วง เครือข่ายอำนาจหวังผล‘ตีตก’ญัตติแก้รัฐธรรมนูญทุกญัตติในสภาสมัยประชุมหน้า
รวมถึงร่าง ‘ไอลอว์’ ที่ประชาชนเข้าชื่อหนุนมากกว่า 1 แสนรายชื่อ
หมากเกมที่วางไว้กลุ่มอำนาจมีความต้องการให้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญไปเริ่มต้นนับหนึ่งในสมัยประชุมสภากลางปีหน้า 2564
ถึงตอนนั้นรัฐบาลอยู่มาแล้ว 2 ปี
เมื่อบวกลบคูณหารกับกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องใช้เวลา 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี
กว่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ประกาศให้รัฐธรรมนูญใหม่มีผลใช้บังคับ
ก็ต้องรอถึงปี 2566 เป็นอย่างน้อย
เมื่อนั้นรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ครบเทอม 4 ปีพอดี
นั่นคือหมากเกมระยะยาวที่วางไว้ ขณะที่ในสภาพความเป็นจริงจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ต้องลุ้นกันแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์หรือเดือนต่อเดือน
มติรัฐสภา 24 กันยาฯ สร้างความโกรธแค้นให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา คนรุ่นใหม่ที่รู้สึกเหมือนตัวเองตกเป็นเหยื่อต้มตุ๋นทางการเมือง
มติ 24 กันยายน เสมือนสาดน้ำมันเข้ากองไฟ
การที่ผู้ถืออำนาจบริหารบ้านเมือง โดยไม่ใส่ใจเสียงของประชาชนที่คิดเห็นแตกต่าง
มีแต่จะสร้างวิกฤตให้กับประเทศจนยากคลี่คลาย
เมื่อใช้สภาไม่ได้ผล ท้องถนนจะรุนแรง
หลายคนห่วงกงล้อประวัติศาสตร์เดือนตุลาฯ อาจหมุนทับรอยเดิมอีกครั้ง