คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ธนาคารโลก คาดการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยไทย ปี 2563 ติดลบ 8.3% แย่สุดถึงติดลบ 10.4% และอาจลากยาวถึง 3 ปีกว่าจะฟื้นตัวได้

นางเบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการเวิลด์แบงก์ประจำประเทศไทย เปิดเผยรายงานเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เดือนตุลาคม 2563

คาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจหรือจีดีพีของภูมิภาคนี้ จะเติบโตเพียง 0.9% เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2510

ประเทศที่เติบโตสุด ได้แก่ เวียดนามและจีน คาดว่าจะเติบโต 2% ส่วนประเทศอื่นคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงโดยเฉลี่ย -3.5%

สำหรับประเทศไทยคาดว่าตัวเลข จีดีพีปีนี้จะติดลบประมาณ -8.3% และกรณีที่แย่สุด คือ -10.4%

ทั้งนี้ ซึมยาวจนถึงปี 2564 จึง คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ 4.9%

ผจก.เวิลด์แบงก์ประเทศไทย ระบุ ว่าไทยคุมระบาดของโควิด-19 ได้ดี ทั้งมาตรการด้านสาธารณสุข และมาตรการเยียวยากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ

แต่ก็ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ประชาชนภาคครัวเรือน จึงถึงเวลาที่ต้องหาสมดุลในการดูแลการระบาดและการดูแลการขยายตัวของเศรษฐกิจให้ กลับมาโดยเร็ว

พร้อมกับชี้ด้วยว่าตอนนี้การลงทุน ลดลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจก็น้อยลง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมายังไม่เพียงพอ

ถึงจะมีวงเงิน 8-13% ของจีดีพี แต่ปฏิบัติได้จริงมีเงินช่วยเหลือออกไปแค่ 4% ของจีดีพีเท่านั้น

ขณะเดียวกันก็คาดด้วยว่ารัฐบาลไทยจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นออกมาอีก เพราะมาตรการแจกเงิน 3,000 บาทยังไม่เพียงพอ

นอกจากนี้ ยังมองว่าการยืดพ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีกจะส่งผลต่อเศรษฐกิจด้วย เพราะการมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินยังไม่ทำ ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยได้

ดังนั้นต้องพยายามหาสมดุลระหว่างนโยบายด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจให้ได้

การเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ก็ถือเป็นความเสี่ยง ในระยะยาว ส่งผลต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติและเศรษฐกิจได้นานแค่ไหน

เป็นข้อสังเกตที่ธนาคารโลกมองประเทศไทย

เภรี กุลาธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน