คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ชุมนุม 14 ตุลา 63 #ให้มันจบเสียที – หลังการชุมนุมเรือนแสน 19 กันยายน

มีความพยายามจากรัฐบาลและเครือข่าย ใช้เรื่องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ

มาเป็นเครื่องลดกระแสการชุมนุมใหญ่ที่จะมีขึ้นอีกครั้ง 14 ตุลาคม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เริ่มจากมีรายงานข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือนอกรอบกับรัฐมนตรีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล

กำชับให้ทุกพรรคร่วมสนับสนุนญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ทั้งของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน

ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พลังประชารัฐ ผู้เสนอตั้งกรรมาธิการ ‘เตะถ่วง’ แก้รัฐธรรมนูญ 30 วัน อ้างว่าในเบื้องต้นมีสัญญาณที่ดี กรรมาธิการส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สอดรับท่าทีบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลไม่ว่าภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ หรือชาติไทยพัฒนา ที่ระดับแกนนำต่างยืนยันแข็งขัน เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ในการตั้งส.ส.ร.ขึ้นมาดำเนินการ

แต่ถามว่าเท่านั้นเพียงพอหรือไม่

ต้องไม่ลืมว่าผู้ชุมนุมประชาชนปลดแอก และกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้รับบทเรียนอย่างไรจากมติที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 24 กันยายน

อันเป็นที่มาของ “ค่ำคืนแห่งการหลอกลวง”

บทเรียนที่ได้ก็คือ ไม่ว่าส.ส.ฝ่ายค้าน ไม่ว่าส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไรต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องไร้ ความหมาย

หากท่าทีดังกล่าวไม่ได้รับการสนองตอบจากพรรคพลังประชารัฐ และส.ว.อีกอย่างน้อย 84 เสียง

ใครที่ไม่ลืมประโยค “รัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเรา”

ก็จะตระหนักได้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องประสบความยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน

โดยเฉพาะถ้าหาก ‘ผู้มีอำนาจ’ ยังคงเล่นบทตีสองหน้า

หน้าหนึ่ง สนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนแก้ไข หน้าหนึ่ง แอบส่งสัญญาณให้ส.ว.ตีตกเพื่อตัวเองได้อยู่ในอำนาจต่อไปอีกยาวนาน

มันก็จะเป็นอย่างที่แกนนำผู้ชุมนุมคนหนึ่งกล่าวไว้

“ลำพังเพียงการตื่นไม่พอ ตื่นแล้วต้องลุกขึ้นด้วย 14 ตุลาคมปีนี้จึงเป็นวันนับจำนวนผู้คนอย่างแท้จริง ถ้าจำนวนน้อยเราจะถูกกระทืบจมดิน ถ้ามาจนล้นราชดำเนินถึงสนามหลวงหรือกว่านั้น ก็ถึงจุดจบเผด็จการ”

#ให้มันจบเสียที

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน