คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ถึงเวลาเลือกตั้งท้องถิ่น : สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องเหตุการณ์น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ซึ่งใช้เวลานานหลายวันกว่าจะระบายน้ำที่ขังออกไปได้

ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคนกรุงเท่านั้นที่เดือดร้อน แต่รวมถึงชุมชนต่างๆ และในส่วนของปริมณฑล ที่มีลักษณะเป็นชุมชนเมือง มีการก่อสร้างยกระดับถนน และอาคารที่พักอาศัย จนทำให้น้ำไม่มีทางระบาย

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในกทม.กลายเป็นเสียงสะท้อนอันดัง และทำให้เกิดการทบทวนว่าความเดือดร้อนครั้งนี้เกิดจากอะไรกันแน่

และหากคำนึงถึงงบประมาณจัดการปัญหาเรื่องน้ำท่วมในระดับหมื่นล้านของกทม.แล้ว

ปัญหาเหล่านี้น่าจะบรรเทาเบาบางลง หรือไม่ควรเกิดขึ้นแล้วในมหานครระดับนี้

แน่นอนว่ามุมมองของปัญหาในเรื่องดังกล่าวย่อมมีความแตกต่างกันไป บรรดา ‘ท่านๆ’ ที่มีรถกันกระสุนให้นั่ง มีรถนำขบวน มีบ้านใหญ่โตหรูหรา ปัญหาพวกนี้อาจจะทำให้แค่รู้สึกรำคาญเวลาเดินทาง

แต่กับประชาชนที่เดินถนน ขึ้นรถประจำทาง กลายเป็นความทุกข์ที่สาหัส ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ส่งบุตรหลานไปโรงเรียน แม่ค้าหาบเร่แผงลอย ที่ต้องหยุดงาน ซึ่งหมายถึงรายได้ที่หดหายไป

ยิ่งในภาวะข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจตกต่ำ ย่อมส่งผลกระทบมากขึ้นอย่างประเมินไม่ได้

อีกทั้งน้ำขังเป็นเวลานาน กลายเป็นที่บ่มเพาะเชื้อโรค ที่ทำให้คุณภาพชีวิตเสื่อมโทรม

จึงไม่แปลกที่ทัวร์จะไปลงเอาที่พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจ ม.44 แต่งตั้งด้วยตัวเอง

ซึ่งยังมองไม่เห็นผลงานในเชิงบวกใดๆ!??

ทั้งยังมีอีกคำถามว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่น หลังถูกอำนาจรัฐประหารทำให้ชะงักงันไปนานกว่า 6 ปี

ให้ประชาชนมีสิทธิเลือกคนมาทำงาน หากไม่ดี ก็มีสิทธิเลือกใหม่หลังจากครบวาระ

ไม่ใช่ให้ถูกมัดมือชกอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่อิงกับอำนาจเผด็จการ ไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน

น่าจะถึงเวลาแล้วจริงๆ!??

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน