คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

กลับไปหาอดีต – ประเมินสถานการณ์วันสุกดิบก่อน 14 ตุลาฯ 2563

กลุ่มเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย

นัดชุมนุมใหญ่ในนาม ‘คณะราษฎร’ ภายใต้ชื่อกิจกรรม “เพราะเราทุกคนคือราษฎร และคณะราษฎรยังไม่ตาย” ตั้งแต่เวลาบ่ายสองโมง 14 ตุลาฯ เป็นต้นไป บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน

เป้าหมายยึดคืนอนุสาวรีย์ฯ เหมือนกับที่เคยยึดท้องสนามหลวง ชุมนุมเมื่อวันที่ 19 กันยาฯ

การเลือกสถานที่ วันเวลาชุมนุมครั้งนี้ เนื่องจาก 14 ตุลาฯ เป็นหมุดหมายหลักชัยของขบวนการประชาธิปไตยเมื่อ 47 ปีก่อน คือ 14 ตุลาฯ 2516

เหมือนที่อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ระบุ การชุมนุมครั้งนี้เยาวชนคนหนุ่มสาวกำลังกลับไปหาอดีต เพื่อเดินไปสู่อนาคตต่อจากปี 2563

แกนนำคณะราษฎร 2563 แถลงชู 3 ประเด็น

เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมชุมนุม คือ ไล่ประยุทธ์และองคาพยพ เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐ ธรมนูญให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือส.ส.ร. จากการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ถึงใครหลายคนมองว่า การเดินหน้าข้อเรียกร้องบางประเด็น อาจทำให้มีผู้เข้าร่วมชุมนุมลดจำนวนลงจากครั้งก่อนๆ

แต่แกนนำผู้ชุมนุมกลับมองผลในทางตรงข้าม

เพียงปรับยุทธวิธีใหม่เป็น“กินทีละคำ”

จัดหมวดหมู่ให้การไล่ประยุทธ์ กับการเปิดสภาสมัยวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นประเด็นเร่งด่วนเฉพาะหน้า

ทั้งนี้ หากดูจากการเตรียมแผนรับมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สั่งระดมกองร้อยควบคุมฝูงชนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1-9 และ ตชด. รวม 95 กองร้อย ฝ่ายรัฐคงประเมินแล้วว่าผู้มาชุมนุม 14 ตุลาฯ น่าจะเบิ้มกว่าทุกครั้ง

แกนนำผู้จัดชุมนุมคาดหมายจะมี ผู้มาร่วมชุมนุมจากทั่วประเทศไม่น้อยกว่าเมื่อ 19 กันยาฯ ที่ผ่านมา

ดังนั้น การที่บางคนแสดงความเห็นแบบฟันธง ว่าการที่แกนนำชุมนุมยังคงชูข้อเรียกร้องบางประเด็น อาจทำให้มีผู้เข้าร่วมน้อยลง

ถือเป็นการแสดงความเห็นสุ่มเสี่ยง

เพราะหาก 14 ตุลาฯ ยังตรึงผู้ชุมนุมไว้ได้ในระดับเดิม หรือมากกว่า

ก็อาจถูกนำไปขยายความอีกทางหนึ่งได้เช่นกัน

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน