คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

เสาค้ำพล.อ.ประยุทธ์ – ยังนับว่าพอจะมีสติตื่นรู้อยู่บ้าง สำหรับท่าทีที่ลดระดับความแข็งกร้าวลงของรัฐบาล

ไล่ตั้งแต่การออกมาแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ส่งสัญญาณให้สภา ผู้แทนราษฎร เปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ประจวบเหมาะกับการที่ศาลซึ่งเป็นองค์กรใช้อำนาจตุลาการ ที่มีการตัดสินใจอย่างอิสระ ไม่มีใครก้าวล่วงได้ ก็เริ่มอนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุม และแกนนำที่ถูกจับกุมในกลุ่มหลัง ทยอยได้ประกันตัวไปหลายคน

ส่งผลให้บรรยากาศทางการเมืองลดความตึงเครียดไปได้บ้าง

แต่ก็ยังคงเกิดคำถามว่าการผ่อนคลายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะอะไร

เป็นเพราะเริ่มเข้าใจตรงกันแล้วว่าควรจะต้องรับฟังเสียงประชาชน ที่แสดงออกมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือน มีการลงชื่อกันมากกว่า 1 แสนรายชื่อเพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สภาพิจารณา

หรือเป็นเพราะประเมินแล้วว่าไม่สามารถปราบปรามม็อบลงได้อย่างราบคาบ

ด้วยเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารกันในยุคสมัยใหม่ ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถรู้เท่าทัน รวมทั้งพลังการแสดงออกที่เกิดขึ้นมหาศาล เป็นม็อบที่มีพลัง พร้อมปะทุขึ้นได้ทุกที่ และเป็นพลังบริสุทธิ์ ชุมนุมโดยสงบอย่างแท้จริง

จึงจำเป็นต้องประนีประนอมเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ ยังสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ได้ต่อไป

ซึ่งก็น่าจับตาว่าการถอยครั้งนี้ของรัฐบาลเพียงพอในการรักษาตำแหน่งดังกล่าวไว้ได้หรือไม่

เพราะอย่าลืมว่าข้อเรียกร้องอันดับแรกของกลุ่มผู้ชุมนุม ก็คือพล.อ. ประยุทธ์ ต้องออกไป

ดังนั้นเมื่อรัฐบาลอ่อนท่าที ม็อบจะอ่อนท่าทีลงตามหรือไม่

แต่ไม่ว่าอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ที่กอดคอกันอย่างเหนียวแน่น

แม้จะมีพื้นฐานจากนักการเมืองลงเลือกตั้งมาจากประชาชน แต่ก็ไม่ปริปากเลยสักคำ แม้จะมีการสลายการชุมนุม ใช้กำลังกับเด็กและเยาวชนเมื่อวันที่ 16 ก.ย.

เป็นความผูกพันที่จงรักภักดีต่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นอีก 1 ปัจจัยค้ำยันความมั่นคงของพล.อ.ประยุทธ์

ที่ประชาชนมองกันตาปริบๆ

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน