คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โกงคนละครึ่ง – “คนละครึ่ง”โครงการประชานิยมล่าสุดของรัฐบาลเริ่ม มีกลิ่น

นายอรรถพล อรรถวรเดช รองผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลังหรือสศค. เข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.กองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)

นำส่งข้อมูลสำหรับใช้ในการสืบสวนสอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับร้านค้าจำนวน 3 ราย

นายอรรถพลกล่าวว่า สศค.ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องอุทธรณ์ สำหรับโครงการคนละครึ่ง เพื่อดำเนินการตรวจสอบพิจารณาและวินิจฉัยการ กระทำที่อาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการ

ขณะนี้พบว่ามีร้านค้าจำนวน 3 ร้านค้า มีเหตุอันควรสงสัยว่าเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ

ทั้งนี้ ได้ระงับสิทธิการใช้แอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” และระงับการจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าดังกล่าวแล้ว

โครงการนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างเข้มข้น

หากตรวจสอบพบการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ ก็จะระงับการใช้แอพพลิเคชั่นและระงับการจ่ายเงินร้านค้าทันที

พร้อมกันนี้ขอเตือนประชาชนและร้านค้าโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ที่เป็นการดำเนินการผิดเงื่อนไขโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด ซึ่งจะมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปด้วย

สำหรับโครงการคนละครึ่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนและกระจายรายได้ให้กับร้านค้ารายย่อย โดยเฉพาะหาบเร่แผงลอยให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น

ข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2563 เวลา 12.00 น. พบว่ามียอดใช้จ่ายสะสม 5,815.37 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 2,966.46 ล้านบาท และรัฐช่วยจ่ายอีก 2,848.91 ล้านบาท

ที่น่าสนใจแม้จะใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่น แต่ก็ยังมีรูรั่วจนได้!!

 

เภรี กุลาธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน