ประนีประนอม ผ่านการลงมติรธน. : ทิ้งหมัดเข้ามุม – เป็นสัปดาห์ชี้ชะตา 7 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ที่ประชุมรัฐสภาวันนี้พรุ่งนี้จะลงมติตัดสิน ร่างใดจะได้ไปต่อ ร่างใดต้องหยุด

7 ร่างแก้ไข ได้แก่ 2 ร่างแก้ไขมาตรา 256 เสนอโดยพรรคร่วมฝ่ายค้านกับพรรคร่วมรัฐบาล
ทั้ง 2 ร่างให้มีส.ส.ร. 200 คน แตกต่างตรงฉบับพรรคฝ่ายค้านให้ส.ส.ร.มาจากเลือกตั้งโดยตรง ส่วนฉบับรัฐบาลให้มาจากเลือกตั้ง 150 จากการคัดเลือก 50

อีก 4 ร่างแก้ไขรายมาตราหลักคือ ยกเลิกอำนาจส.ว.โหวตนายกฯ, ป้องกันไม่ให้มีนายกฯ คนนอก, กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งส.ส. 2 ใบและยกเลิกการรับรองความถูกต้องของประกาศ คำสั่งคสช.

ร่างที่ 7 ฉบับไอลอว์ที่ประชาชนกว่าแสนคนลงชื่อเสนอแก้ไข ให้ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง

มีการวิเคราะห์ผลลงมติออกได้ 3 ทางคือ ผ่านหมด ไม่ผ่านหมด และผ่านแค่บางร่าง
ผ่านหมดเป็นไปได้น้อยมากเพราะส.ว.คงไม่ยอม

แนวทางที่สอง ไม่ผ่านทั้งหมด ถ้าเป็นเช่นนั้นฝ่ายที่จะโดนสังคมก่นประณามคือรัฐบาล รองลงไปคือส.ว.

เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เพียงเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ยังเป็นต้นตอวิกฤตความขัดแย้งในสังคมครั้งใหญ่

แค่ส.ส.พลังประชารัฐสมคบกับส.ว.เตะถ่วงด้วยการตั้งกรรมาธิการศึกษาการแก้ไขก่อนลงมติ
ล่าสุดยังร่วมมือกันเสนอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็ยังโดนรุมด่าเละเทะว่ามีเจตนาป่วนล้มกระดาน








Advertisement

ยังทำให้ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” เดือดร้อน ถูกกล่าวหาอยู่เบื้องหลังส่งสัญญาณดึงเกมต่อเวลาอยู่ในอำนาจ
การลงมติคว่ำ 7 ร่างไม่ต่างจากการเติมเชื้อไฟให้ม็อบลุกฮือโหม อย่างที่รัฐบาลไม่อยากให้เป็น

เมื่อเป็นดังนี้ทางที่ 3 จึงเป็นไปได้มากสุดคือ โหวตผ่านบางฉบับ

แน่นอนในกรณีนี้ร่างที่จะได้รับเลือกให้ผ่านคือ ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล

แต่ก็อีกนั่นแหละ หนทางที่เป็นไปได้มากที่สุด ก็ไม่ได้หมายความว่าคือหนทางดีที่สุด

หากจะให้ดีที่สุด สมาชิกรัฐสภาต้องร่วมโหวตให้ร่างฉบับไอลอว์ ที่ประชาชนกว่าแสนคนร่วมลงชื่อสนับสนุน ผ่านวาระแรกไปด้วย แล้วค่อยไปว่ากันต่อเรื่องเนื้อหาในวาระ 2

แบบนั้นต่างหาก ถึงจะเรียกว่าประนีประนอมอย่างแท้จริง

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน