คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
กระแสข่าวสินบนกรณีโควิด 1G1 – ซัดกันไปโยนกันมายังหาข้อเท็จจริงไม่ได้
กรณีกลุ่มคนไทยพนักงานโรงแรมวันจีวัน (1G1) จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศ เมียนมา ลักลอบเดินทางกลับเข้าประเทศผ่านช่องทางไม่ปกติ หรือที่เรียกว่าช่องทางธรรมชาติ แล้วนำเชื้อโควิดมาด้วย
จนสุ่มเสี่ยงต่อการระบาดรอบสอง สร้างความเสียหายต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวจากการล็อกดาวน์รอบแรก ไปจนถึงเศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศ
ว่าที่จริงแล้วท่ามกลางกระแสข่าวการจ่ายสินบนค่าผ่านทางเข้า-ออก มีใครหรือหน่วยงานใดต้องรับผิดชอบกับการกระทำอันละเมิดกฎหมายและมาตรการทางสาธารณสุขครั้งนี้บ้าง
แม้กรมควบคุมโรคโดยรักษาการอธิบดีจะยืนยัน ขณะนี้ จ.เชียงราย และเชียงใหม่สามารถควบคุมสถานการณ์โควิดได้ดี หากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็จะอยู่ในสถานกักกันตัว
อีกทั้งการติดเชื้อจะเกิดจากการสัมผัส ถ้าไม่ได้สัมผัสหรืออยู่ในสถานที่เวลาเดียวกันกับผู้มีเชื้อก็ไม่มีความเสี่ยง
คนอยู่เชียงใหม่ เชียงรายสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ คนไปเที่ยวก็ยังเข้า-ออกจังหวัดได้ตามปกติ ไม่มีการปิดจังหวัดใดๆ ทั้งสิ้น
ถึงกระนั้นคนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจ
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือระบุ ปัจจุบันมีการยกเลิกการจองห้องพักโรงแรม รีสอร์ต ทัวร์นำเที่ยว รถนำเที่ยวแล้วจำนวนมาก จากปกติมีราว 70 เปอร์เซ็นต์ หดเหลือแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ทั้งที่เป็นไฮซีซั่น
จึงไม่แปลกหากผู้ประกอบการท่องเที่ยวผู้เสียหายโดยตรง มีความคิดจะฟ้องร้องเอาผิดกลุ่มผู้ลักลอบเข้าตามช่องทางธรรมชาติ นำเข้าเชื้อโควิดมาแพร่ต่อ ซึ่งความคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากรมว.สาธารณสุขด้วยเช่นกัน
ข้อดีของการฟ้องร้องเอาผิดผู้นำเข้าโควิดโดยการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างหนึ่งก็เพื่อเป็นคดีตัวอย่าง ไม่ให้คนอื่นทำตาม
และอีกอย่างคือ เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการทางศาลก็จะได้รู้ ข้อเท็จจริงว่ามีใครหรือหน่วยงานใดตามแนวชายแดน เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบพาคนเข้า-ออกประเทศครั้งนี้บ้าง
มีการจ่ายเบี้ยบ้ายรายทางจริงหรือไม่?
มันฯ มือเสือ