คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รัฐบาลประยุทธ์ ความฉับไวต่อโควิด – ท่ามกลางความสับสนกับมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ของรัฐบาล
ในการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในราวกลางเดือนธันวาคมปีก่อน
สังคมตั้งคำถามว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาใดๆ ให้กับประชาชนและสถานประกอบการที่ได้รับผล กระทบจากมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ครั้งนี้หรือไม่
ถึงจะมีความพยายามเลี่ยงคำว่ามาตรการ “ล็อกดาวน์” แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่รัฐบาลย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ
แม้การระบาดระลอกใหม่จะไม่มีการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ เป็นวงกว้าง ไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศเหมือนในการระบาดช่วงต้นปี 2563
ถึงตอนนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ บางส่วนยังดำเนินต่อไปได้ ก็จริง
แต่ก็จริงเช่นกัน ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนไม่น้อยได้รับผล กระทบหนักหน่วง โดยเฉพาะในจังหวัดพื้นที่สีแดงซึ่งถูกควบคุมระดับ เข้มงวดสูงสุด
อันนำมาสู่มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ผ่านมา เห็นชอบหลักการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่
คนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน
โดยให้กระทรวงการคลังไปศึกษา รายละเอียดและนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในสัปดาห์หน้าวันที่ 19 มกราคม 2564
การจ่ายเงินเยียวยาอันเป็นมาตรการหลัก นอกเหนือจาก 3 มาตรการบรรเทาผลกระทบระยะเร่งด่วน ได้แก่
มาตรการเสริมสภาพคล่อง บรรเทาภาระหนี้สินของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และประชาชน, มาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้แรงงาน ลดหย่อนเงินสมทบนายจ้าง และผู้ประกันตน เพิ่มสิทธิประโยชน์ การว่างงาน ฯลฯ และมาตรการลดค่าใช้จ่ายประชาชนโดย การลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และค่าอินเตอร์เน็ต
3 สัปดาห์สำหรับมาตรการบรรเทาผลกระทบระยะเร่งด่วน 1 เดือนเต็มสำหรับความชัดเจนในเรื่องการจ่ายเงินเยียวยา หากนับตั้งแต่วันแรกของการระบาดระลอกใหม่ 20 ธันวาคม 2563
7 เดือนเต็มเป็นอย่างน้อยภายหลังคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมาส่งสัญญาณเตือนสถานการณ์การระบาดของโควิดรอบสองในไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563
เหล่านี้จึงสะท้อนความฉับไวต่อ การป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิดของรัฐบาลชุดนี้อย่างชัดเจน
