คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ความฝันกับความจริง : น่าสนใจอย่างยิ่งว่าหากมีคนสนใจที่จะทำโพลสำรวจความรู้สึกของคนทั่วไปในสังคมว่าความฝันในวัยเด็กของแต่ละคนเป็นอย่างไร

คงได้คำตอบที่หลากหลายในเรื่องของหลากหลายอาชีพ หรือความใฝ่ฝันในด้านต่างๆ

อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่น่าจะตรงกันแน่ๆ คือเชื่อว่าทุกคนตั้งเป้าจะเป็นคนดี อยู่ฝ่ายธรรมะ เป็นผู้มีคุณธรรม เป็นเหล่าฮีโร่ผู้พิทักษ์โลก

เหมือนดังเช่นการ์ตูนหรือนิทานปรัมปราที่ได้รับการปลูกฝัง ตลอดจนค่านิยมที่ยึดมั่นถือมั่นว่าความดีต้องชนะความชั่ว และธรรมะย่อมชนะอธรรม

คงไม่มีใครมีความใฝ่ฝันจะเติบโตมาเป็นโจรผู้ร้าย ผู้เผด็จการ ทรราช หรือกระทั่งเป็นลูกน้องหรือเครื่องมือให้กับระบบที่กดขี่ข่มเหง

ฟังดูแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องที่งดงาม อนาคตของประเทศก็ควรจะโชติช่วงชัชวาล

แต่เมื่อมามองในโลกของความจริงกลับแตกต่างจากความฝันโดยสิ้นเชิง!??

ซึ่งเราคงต้องตอบให้ได้ว่าทำไมถึงปล่อยให้รูปแบบการเมืองที่อ้างว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่มีกติกาน่าฉงน คะแนนปัดเศษ จนพรรคที่ได้ส.ส.อันดับ 1 หมดโอกาสจัดตั้งรัฐบาล

มีส.ว. 250 คน ที่ยึดโยงกับคณะรัฐประหาร มีอำนาจเลือกนายกฯ แถมยังเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตย

เรามีคนจำนวนมากถูกดำเนินคดี เพราะมีความเห็นต่าง คนที่เรียกว่าเป็นอนาคตของชาติถูกคุมขัง โดยไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว

เราเผชิญกับการใช้มาตรการรุนแรงต่อผู้ชุมนุม มีการใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา ขณะที่มีข้อสงสัยว่าถูกต้องตามหลักการใช้กำลังจากเบาไปหาหนักหรือไม่

เรามีชาวกะเหรี่ยงชาติพันธุ์ที่ถูกคุกคาม ใช้กำลังจับกุมส่งขังเรือนจำ ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน เพียงเพราะเขาต้องการกลับบ้านเกิดที่ถูกขับไล่ออกมา

ยังไม่รวมกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นอีกมากมายร้อยแปด

อดไม่ได้ที่จะต้องตั้งคำถามว่า ทำไมเจตนาที่ดีในวัยเด็ก กลับแปรผันไปได้ถึงเพียงนี้

จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทบทวนตัวเอง และยังมีโอกาสที่จะทำให้ความฝันในวัยเด็กสัมฤทธิผล

โอกาสที่จะได้เป็น ฮีโร่ สมดังที่คาดหวัง!!?

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน