เซฟบางกลอย เท่ากับเซฟรัฐบาล – กลุ่มพีมูฟ ภาคีเซฟบางกลอย ปักหลัก ชุมนุมข้างทำเนียบนาน 10 วัน
ได้รับความสนใจจากสังคมมากขึ้นหลังจากมีบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งนักเคลื่อนไหว เอ็นจีโอ ดารา นางงาม นักการเมืองมาร่วมกิจกรรมปราศรัย บางคนมาเยี่ยมให้กำลังใจ
บางกลอยคือ หมู่บ้านอพยพชาวกะเหรี่ยง ตั้งอยู่ใน ‘ใจแผ่นดิน’ กลางป่าแก่งกระจาน ถิ่นฐานดั้งเดิมกว่า 100 ปี ถูกฝ่ายรัฐกล่าวหาเป็นต้นตอทำลาย ป่าไม้ ป่าต้นน้ำ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง ฯลฯ
ถูกบังคับอพยพลงมาที่บ้านโป่งลึก-บางกลอยล่าง บางส่วนได้รับจัดสรรที่ดินทำกิน บางส่วนไม่ได้ ส่วนที่ได้ ก็เพาะปลูกไม่ได้เพราะสภาพผืนดิน ไม่เอื้ออำนวย
วิถีชีวิตวัฒนธรรมความเป็นอยู่ แปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กระทั่งความอดทนต่อความทุกข์ยากถึงจุดสิ้นสุด ชาวบ้านจำนวนหนึ่งตัดสินใจกลับใจแผ่นดิน ผลคือถูกเจ้าหน้าที่รัฐตามราวี บังคับขับไล่ จับกุมดำเนินคดี
จนต้องอพยพเข้ามาปักหลักข้างทำเนียบ
ยื่น 7 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล เช่น ให้รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปรับท่าทีการแก้ไขปัญหา ไม่วางตัวเป็น คู่ขัดแย้งกับประชาชน ยุติการดำเนินคดีกับชาวบ้าน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดถือ ทำตามบันทึกข้อตกลงที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ เป็นต้น
ปัญหาบางกลอยลุกลามประชิดรั้วทำเนียบ อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
แต่แปลกที่รัฐมนตรีผู้มีบทบาทแก้ไขกลับเป็นร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ผ่านคณะกรรมการประสานเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาพีมูฟ อันมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน
7 ข้อเรียกร้องถูกนำเข้าที่ประชุมพิจารณาจริงจังในคณะอนุกรรมการ แก้ปัญหาบางกลอยที่มีร.อ.ธรรมนัส เป็นประธาน
“ดูจากทิศทางแล้วไม่น่ามีปัญหา ถือเป็นการถอยคนละก้าวเพื่อให้ได้ข้อยุติซึ่งปัญหา” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ ส่วนข้อเรียกร้องไม่ให้ดำเนินคดีกับชาวบางกลอยที่กลับใจแผ่นดิน พิจารณาแล้ว เบื้องต้นอาจจะชะลอการดำเนินคดีจนกว่าจะได้ข้อสรุป
ตรงนี้คือท่าทีของ ‘นักการเมือง’ ต่อปัญหาบางกลอย แตกต่างกัน ระหว่างรมช.เกษตรฯ กับรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ
ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับการปรับ ครม. การใช้คนให้เหมาะสมกับงาน
น่าจะมีส่วนช่วย ‘เซฟรัฐบาล’ ได้อีกทาง
