เสียงท้าทายจุดยืนภท.-ปชป. – รัฐบาล พรรคร่วม ส.ว. ฝ่ายค้าน ระเบิดศึก 4 เส้า ภายหลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

สรุปคือเพื่อไม่ต้องเสียเวลาทำประชามติ 3 พรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าจะเสนอแก้ไขรายมาตรา

เช่นเดียวกับพรรคฝ่ายค้านที่เตรียมเสนอญัตติเข้าสู่รัฐสภาในการเปิดประชุมสมัยสามัญครั้งหน้า

ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลปักธงแก้ไข 2 ประเด็นหลักคือ ยืนยันแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้การแก้ไขมาตราอื่นๆ ทำได้ง่ายขึ้น กับอีกประเด็นคือแก้ไขมาตรา 272 ตัด อำนาจส.ว.ไม่ให้ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ทั้ง 2 ประเด็นเป็นชนวนให้ส.ว.บางคนออกมาซัดกลับพรรคร่วมรัฐบาลเล่นบทตีสองหน้า เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น

เพราะถ้าส.ส.ทุกคนทุกพรรคที่มาจากการเลือกตั้ง ยืนหยัดอยู่กับประชาชนอย่างแท้จริง ส.ว. 250 คนก็ไร้ความหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ

การดำรงอยู่ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ด้วยส.ส.และพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวกับส.ว. แค่พรรคใดพรรคหนึ่งถอนตัวรัฐบาลก็ล้มครืน

แต่ที่ไม่แข็งขันเพราะกลัวหลุดจากอำนาจ กลัวไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แล้วก็ โยนขี้ให้ส.ว.

ไม่ทันเริ่มนับหนึ่ง ส.ส.-ส.ว.ก็ออกมาฉะกันเต็มแรง

ส่อแววว่าแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราในรัฐสภา อาจจะยากยิ่งกว่าแก้โดยส.ส.ร.เสียอีก เพราะการจะแก้ไขให้สำเร็จได้ยังต้องอาศัยส.ว. 84 คนเห็นชอบด้วยอยู่ดี

เพราะแบบนี้ เราถึงได้ยินเสียงท้าทายดังจากทำเนียบรัฐบาล

“ถ้าระแวงว่าผมจะสืบทอดอำนาจ ก็ไปแก้มา จะเลือกหรือไม่เลือกผมก็ไม่ได้ขัดข้อง ไม่เลือกก็ได้ ก็ไปแก้มา แก้ให้ได้ก็แล้วกัน”

เป็นประโยคที่นอกจากแสดงเจตนาชัดเจนว่าผู้พูดไม่เคยคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น ยังแสดงถึงความมั่นใจว่า ฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช.ไม่มีทางแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ หากผู้พูดไม่อยากให้แก้

อีกด้านยังเป็นความมั่นใจในจุดยืนพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์

หัวเด็ดตีนขาด ไม่ถอนตัวจากรัฐบาลแน่นอน

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน