คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

วิบากกรรมรถไฟฟ้า – เป็นเรื่องที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนกรุงเทพฯ ที่ต้องเร่งแก้ไข

สำหรับปัญหาจากโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งควรจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชน กลับกลายเป็นตัวสร้างปัญหา

อย่างเช่นการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าวสำโรง ที่เกิดอุบัติเหตุด้วยความสะเพร่าของบริษัทก่อสร้าง ทำให้เกิดเหตุแขนเครนยกของร่วงหล่นบนถนนศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 13 เม..ที่ผ่านมา

ส่งผลให้มีชาวบ้านที่ขี่จยย.ผ่านจุดดังกล่าวบาดเจ็บ 1 ราย

แม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าความไม่ปลอดภัยในการก่อสร้างเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากน้อยเพียงใด

และอย่าลืมว่านี่แค่การก่อสร้างยังไม่เสร็จหากดำเนินการไปจนถึงการเดินรถแล้วไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีความเสียหายย่อมประเมินค่าไม่ได้

จึงเป็นเรื่องสำคัญจริงๆที่ต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัยให้รอบด้านไม่ให้เกิดซ้ำอีก

ไม่เพียงแค่นั้น เรื่องอุบัติเหตุจากการก่อสร้างยังไม่สิ้นสุดก็วุ่นวายกันเรื่องสายสีเขียว เมื่อกทม.ยืนยันจะต้องต่อสัญญาสัมปทานให้บริษัทเอกชน ทั้งที่เหลืออายุสัมปทานถึงปีพ..2572 แถมยังต้องแลกกับการคงราคาค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย

ทั้งที่ไม่มีตัวเลขชี้วัดอะไรว่าทำไมถึงต้องเป็น 65 บาท!??

แน่นอนว่ากระแสคัดค้านกระหึ่มขึ้นทั้งบ้านทั้งเมืองถึงขั้นสภาองค์กรผู้บริโภคต้องออกมาล่าชื่อประชาชนให้ร่วมคัดค้าน

ขอให้จัดเก็บค่าโดยสารในราคา 25 บาทตลอดสาย เพราะคำนวณแล้ว กทม.จะมีกำไรถึง 2.3 หมื่นล้านบาท

และหากทำไม่ได้เพราะมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพด้านการทำงาน ผู้บริหารกทม.ชุดที่มาจากคสช. ก็ไม่ควรรีบร้อนต่อสัญญาให้

สามารถรอให้ผู้ว่าฯกทม.ที่มาจากการเลือกตั้งมาแก้ไขปัญหา เพราะสัญญาก็ยังเหลืออีกตั้ง 8 ปี

ไม่ต้องมารีบร้อนลุกลี้ลุกลนกันจนเป็นที่ผิดสังเกตถึงเพียงนี้

ที่สำคัญเรื่องดังกล่าวก็อยู่ในการพิจารณาของป... และศาลรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านยื่นตีความเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน

เป็นอีก 1 ปัญหาที่ถาโถม และหากแก้ปัญหาได้ไม่ถูกจุดเกาไม่ถูกที่คัน ก็จะไม่แค่ส่งผลกระทบถึงกทม.เท่านั้นแต่จะลามพังกันถึงรัฐบาล

จงตรองดูให้รอบคอบเถิด!??

โดย สิทธิรักษ์ ศาสตรา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน