คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สินบนโตโยต้า – เป็นข่าวใหญ่ที่กระทบกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างรุนแรง
เมื่อสื่อต่างชาตินำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทุจริตจ่ายสินบนของบริษัทโตโยต้า ประเทศไทย ต่อผู้พิพากษา
สร้างความสงสัยให้กับประชาชนชาวไทย รวมทั้งสื่อทั่วโลกว่ากรณีดังกล่าว มีข้อเท็จจริงอย่างไรหรือไม่
โดยกรณีดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นที่กรมศุลกากร ตรวจสอบพบว่าบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย นำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์โตโยต้า พรีอุส ที่สามารถนำมาประกอบเป็นรถยนต์สำเร็จรูปได้ โดยอ้างการดำเนินการภายใต้ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น เสียภาษีในอัตรา 30 เปอร์เซ็นต์
ทั้งที่กรณีดังกล่าวการนำเข้ารถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,800 ซีซี จะต้องชำระอากรภาษีในอัตรา 80 เปอร์เซ็นต์
โดยดำเนินการระหว่างปี 2553-2555 ชิ้นส่วนทั้งหมดประกอบรถยนต์ได้ 2 หมื่นคัน กรมศุลกากรจึงเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเป็นมูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท
ส่งผลให้บริษัทโตโยต้ายื่นฟ้องกรมศุลกากร ขณะที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้บริษัทโตโยต้าชนะคดี แต่ในชั้นอุทธรณ์ศาลกลับคำตัดสิน
ยังอยู่ระหว่างการรอคำตัดสินจากศาลฎีกา!??
ส่วนสาเหตุที่อัยการสหรัฐเข้ามาสอบสวนเรื่องดังกล่าว เนื่องจากบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐรายงานขึ้นมา
ซึ่งเข้าข่ายการละเมิดกฎหมายต่อต้านสินบน และมีความผิดที่มีบทลงโทษทางแพ่งและอาญา
เป็นคดีระหว่างประเทศไปเรียบร้อย!!
ส่วนความเคลื่อนไหวในองค์กรศาลของไทย นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรมระบุ จะสอบสวนและลงโทษเด็ดขาดกับการกระทำที่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติของผู้พิพากษา ทำลายความเป็น กลางของศาล
ขณะที่นายดิเรก อิงคนินันท์ อดีตประธานศาลฎีกา นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ เดินทางแจ้งความกองปราบปราม
ส่วนนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ อดีตประธานศาลฎีกา ระบุว่ามอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินคดี ยืนยันข้อมูลที่พาดพิงเป็นเท็จ
ท่าทีของอดีตตุลาการชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 3 ถือว่าหนักแน่นชัดเจน พร้อมพิสูจน์ความจริง
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมไทย ซึ่งหากเกิดปัญหาแล้ว หลักของประเทศย่อมสั่นคลอน
จึงต้องเร่งหาความจริงให้ได้โดยเร็ว!??
รุก กลางกระดาน