วัคซีนชี้วัดวิสัยทัศน์ผู้นำ – วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอโทษประชาชนเกี่ยวกับการจัดหาและการกระจายวัคซีนที่เกิดปัญหาขลุกขลัก

7 มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลกำหนด คิกออฟฉีดวัคซีนปูพรมทั่วประเทศ วันแรกมีผู้มาฉีดกว่า 4 แสนคน

แต่ก็มีโรงพยาบาลบางแห่งแจ้งเลื่อนนัดเนื่องจากได้รับวัคซีนน้อยกว่าจำนวนผู้ลงทะเบียน

กระทรวงสาธารณสุขสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง แถมตำหนิโรงพยาบาลฉีดวัคซีนเร็วไป รัฐบาลจัดหามาป้อนให้ไม่ทัน

ช่วงนี้คนในรัฐบาลต่างพูดถึงแต่วัคซีนโดยเฉพาะนายกฯ และรมว.สาธารณสุข

จนเกิดข้อครหาจงใจกลบเกลื่อนสถานการณ์ระบาดโควิดที่ปัจจุบันยังไม่ลดความรุนแรงลง จากตัวเลขผู้ป่วยรายวันกว่า 2,000 รายต่อเนื่องกว่า 1 เดือน เสียชีวิตวันละ 20-30 ราย สะสมพันกว่า

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุนอกจาก มาตรการสวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง วัคซีนคือเกราะป้องกันดีที่สุด

ซึ่งก็จริง แต่นั่นก็ทำให้นึกย้อนไปว่าหากรัฐบาลจัดหาวัคซีนเร็วกว่านี้ กระจายฉีดให้ประชาชนเร็วกว่านี้ สถานการณ์คงไม่ลุกลามหนักหน่วงอย่างที่เป็นอยู่

ทีนี้ถามว่าปูพรมวัคซีน 7 มิ.ย.แล้ว ยังไงต่อ

หมอบางคนยังแซว วันที่ 7 ปูพรม วันต่อมาเก็บพรม

เพราะกว่าจะได้แอสตร้าเซนเนก้า 1.8 ล้านโดส บวก 2.4 แสนโดสสั่งจากเกาหลีใต้มากู้หน้า ก็เล่นเอาหืดจับ

ตอนต้นปีในแผนรัฐบาลบอกมิ.ย.64 จะได้แอสตร้าฯ 6 ล้านโดส เหลือเวลา 20 วัน ต้องรอดูว่าอีก 4.2 ล้านโดสจะอย่างไร

ประยุทธ์-อนุทินพูดตรงกันแผนจัดสรรกระจายวัคซีนต่อจากนี้จะพิจารณาแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์

ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์แต่ละพื้นที่ และตามจำนวนวัคซีนในมือ

พูดง่ายๆ คือบริหารแบบยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

แน่นอนไม่มีใครรู้วิธีนี้ผิดหรือถูก แต่เท่าที่เห็นคือโควิดไม่ได้หยุดนิ่ง พัฒนาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่เช่นนั้นคงไม่ระบาดถึง 3 ระลอก ถือเป็นบทเรียน

แผนรับมือของรัฐบาลต้องปรับเปลี่ยน พลิกแพลงให้ทัน

อีกแง่มุมหนึ่ง โควิดทำให้คิดเชื่อมโยงไปถึงแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

ชี้ชัดถึงความไร้ประโยชน์และล้าหลังของฝ่ายอำนาจ อย่าพยายามทำตัวมี วิสัยทัศน์ยาวไกลขนาดนั้น

เพราะแค่โควิดปีกว่ากับผลงานที่ ออกมา

ประชาชนก็รู้ซึ้งแล้วว่า ท่านผู้นำ วิสัยทัศน์สั้นยาวแค่ไหน?

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน