ยอมรับความจริงได้แล้ว – เป็นปัญหาอย่างที่เตือนกันมาตลอด สำหรับเรื่องวัคซีนโควิด ที่ห่วงกันว่าจะไม่เพียงพอ
ทำให้หลายโรงพยาบาลทยอยประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนออกไปโดยไม่กำหนด
แต่แทนที่จะแก้ปัญหาให้ตรงจุด เกาให้ถูกที่คัน กลับเจอรูปแบบการบริหารจัดการที่น่าตกตะลึง ด้วยการสั่งห้ามไม่ให้เลื่อนการฉีด พร้อมท่องคาถาว่าวัคซีนมีพร้อม มีพอ
ราวกับว่าหากไม่พูดถึงย่อมแสดงว่าไม่มีปัญหา!??
แต่ในที่สุดแม้จะพยายามซ่อนเร้น ไม่สนใจใดๆ แต่ปัญหาก็คือปัญหา ฝีโควิดที่กลัดหนองมาตลอดก็แตกจนได้
วัคซีนโควิดที่ทั้งนายกฯ รัฐมนตรี ผู้ติดตามไปยืนกันหน้าสลอน ถ่ายรูปอย่างภาคภูมิใจในวันดีเดย์ ก็กลายเป็นดีเลย์ หรือความล่าช้าภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
จึงเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถามว่าถึงเวลาหรือยังที่จะต้องนำความจริงมาพูดกันกับประชาชน
เริ่มกันที่เอากันให้ชัดว่าใครเป็นผู้วางแผนบริหารวัคซีน ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ศบค. นายกฯ หรือกระทรวงสาธารณสุข
ไม่ใช่ว่าตั้งกรรมการ ตั้งบอร์ดกันมายกใหญ่ แต่ละคนแต่ละฝ่ายสั่งการกันหมด ต่างคนต่างทำ สุดท้ายพอมีปัญหา กลับไม่มีใครแอ่นอกรับผิดชอบ
อย่างเรื่องความขัดแย้งกรณีกทม. และกระทรวงสาธารณสุข ที่ซัดกันจะจะว่า ทุกอย่างพร้อม มีเพียงวัคซีนไม่พร้อม
สุดท้ายก็ต้องมานั่งแถลงข่าวแก้ตัว มีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาสมช.ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. มาเป็นตัวกลาง
ซึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะก็รู้กันอยู่ว่าที่พล.อ.ณัฐพลต้องกระเด็นมาเป็นเลขาฯสมช. เพราะไม่สามารถขึ้นเป็นผบ.ทบ.ได้
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที ขณะที่งานศบค.ซึ่งใหญ่กว่ามากเช่นนี้ ก็น่าห่วงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผล
การใช้คนให้ถูกกับงานจึงเป็นก้าวแรก แห่งการยอมรับความจริง
ต่อด้วยหาวิธีจัดหาวัคซีนให้เพียงพอ เปิดสัญญาระหว่างบริษัทคู่ค้าว่าอะไรเป็นอะไร
ถ้าหาไม่ได้ก็ยอมรับ และขอโทษ ต่อประชาชนอย่างจริงใจ
ยอมรับว่าทำไม่ได้ ทำไม่ไหว ให้คนมีฝีมือ หรือบริหารจัดการในภาวะวิกฤตได้ดีกว่ามารับผิดชอบแทน
ก็จะเป็นคุณูปการต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างสูงยิ่ง!??