เปิดเรียนให้ได้เสียก่อน : ทิ้งหมัดเข้ามุม
เปิดเรียนให้ได้เสียก่อน – ยังคงต้องจับตาอย่างต่อเนื่อง สำหรับแผนเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตามคำมั่นสัญญาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม
ว่าจะสามารถทำได้จริง หรือเป็นเพียงแค่คำพูดเพื่อซื้อเวลา กลบเกลื่อนความผิดพลาดของการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะเรื่องจัดหาวัคซีนล่าช้าและไม่เพียงพอ
ซึ่งต้องรอการพิสูจน์กันต่อไป
อย่างไรก็ตามเริ่มมีคำพูดในทำนองว่า ก่อนจะเปิดประเทศอย่างที่พูดไว้ ให้ช่วยเปิดเทอมก่อนได้ไหม?
เปิดเทอม ที่เป็นเปิดเทอมจริงๆ ให้เด็กได้ไปโรงเรียน ไปเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ที่เหมาะสมกับวัยของเขา
ไม่ใช่การเปิดเทอมแต่ในนาม แล้วก็ต้องนั่งหน้าจอเรียนออนไลน์ ผ่าน จอทีวี หรือจอคอมพิวเตอร์แบบที่เกิดขึ้น
เพราะไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะมีความพร้อม ในอุปกรณ์ เครื่องมือ อินเตอร์เน็ตที่รองรับการเรียนออนไลน์ได้ทุกคน
รวมทั้งครอบครัวที่ต้องทำมาหากิน ปากกัดตีนถีบในยุคที่ยากลำบากจากโควิด ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องคอยอำนวยความสะดวกให้บุตรหลาน โดยเฉพาะเด็กที่ยังเล็กอยู่
ทั้งหมดส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาขยายตัว ปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ อันจะเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคต
แต่แน่นอนว่าถ้าเปิดแล้ว ก็ต้องปลอดภัย ตราบใดที่มีความเสี่ยงก็ยังเปิดไม่ได้
ไม่เช่นนั้นก็เปิดแล้วเจอติดเชื้อ ต้องปิดต่อ กระทบทั้งเรื่องสุขภาพและการศึกษา
จึงต้องตั้งคำถามว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้หรือไม่ และถ้าให้ความสำคัญจะทำอย่างไร
วัคซีนโควิดที่เป็นทางรอดเดียว ซึ่งก็ชัดเจนว่าในปัจจุบันที่ทั่วโลกรับรองว่าฉีดกับเด็กได้ ก็มีแต่วัคซีน ไฟเซอร์
แล้วได้จัดหา จัดซื้อหามาให้เยาวชนอนาคตของชาติกันบ้างหรือไม่
นี่ยังไม่นับเรื่องของบุคลากรทางการศึกษา ที่ควรฉีดวัคซีนให้ได้ทั้งหมด เพื่อป้องกันการระบาดที่รุนแรง
แต่ก็มีข่าวที่บรรดาครูออกมาทวงโควตาวัคซีนอีกจนได้
กระทรวงศึกษาฯ ได้มีปากมีเสียงดูแลอะไรหรือไม่ หรือปล่อยไปตามยถากรรม
ดังนั้นหากอยากจะเปิดประเทศ ให้ได้ ก็ต้องจัดการปัญหาในประเทศให้เรียบร้อยเสียก่อน
เว้นแต่พูดไปเรื่อยโดยไม่คิด จะทำตาม ผลกรรมก็ตกอยู่กับประชาชน!??
รุก กลางกระดาน