คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม – ลุ้นแผน 120 วัน จะรอดหรือพัง
สิ้นเสียงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศ 120 วันเปิดประเทศ
สถานการณ์โควิดในไทยกลับทรุดหนักด้วยผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 4,000 ราย ต่อวัน เสียชีวิต 40-50 ราย
ส่งผลกระทบลูกโซ่ไปถึงเตียงรองรับไม่พอ คนป่วยโควิดล้นโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลหลักทั้งของรัฐ-เอกชน
บางแห่งปฏิเสธตรวจหาเชื้อเพราะ ไม่เหลือเตียงรับรักษาหากพบว่าติดโควิด ส่งให้ส่วนกลางก็วนลูปกลับมาที่เดิม
เพิ่มเตียงทันไม่ทันก็ปัญหาหนึ่ง
แต่ยังมีปัญหาอีกว่าทีมบุคลากรการแพทย์ หมอ-พยาบาล ฯลฯ ตอนนี้เริ่มไม่พอ ที่มีอยู่ก็อ่อนล้าเพราะโควิดยืดเยื้อมาเป็นปี
ต้องพึ่งพาทีมแพทย์จากจังหวัดสีเขียว เข้ามาช่วยจังหวัดสีแดงเข้มอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล กับอีกทางคือระดมแพทย์-พยาบาลจบใหม่ให้มาช่วยงานทันที
ขณะที่การฉีดวัคซีนก็ไม่เร็วพอ อัตราเร่งอยู่ในระดับ 2 แสนกว่าเข็มต่อวัน
แต่ก็ยังห่างไกลเป้าหมาย 4-5 แสนเข็ม ต่อวันที่ ศบค.วางไว้สำหรับการเปิดประเทศเดือนต.ค.
ที่เป็นปัญหาซ้ำเติมคือ ประชาชนเริ่มขาดความเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพวัคซีนที่มี
เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์หลายคนระบุตรงกัน
วัคซีนหลักของไทยคือซิโนแวค ต่อให้ฉีดครบ 2 เข็มก็ยังไม่พอต่อการสู้กับเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ ที่มาใหม่และกำลังขยายวงแพร่กระจายไปในหลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคใต้
สรุปคือต้องมีเข็มสามตามมาแน่นอน ขณะที่บางคนเข็มแรกยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ คิดแล้วก็น่าท้อใจ
ขณะที่สถานการณ์หลายเรื่องมาบรรจบ ศุกร์ที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมทีมแพทย์ ศบค.แถลงสั่งล็อกแคมป์ก่อสร้างทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑลกับ 4 จังหวัดใต้ มีผล 30 วันนับตั้งแต่วันจันทร์ 28 มิ.ย.
ปรากฏคืนวันศุกร์ต่อเนื่องเสาร์-อาทิตย์ กลุ่มแรงงานต่างเก็บข้าวของเดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัดกันอึกทึกครึกโครม
รัฐบาลต้องรีบส่งทหาร-ตำรวจไปล้อมสกัด ทันมั่ง ไม่ทันมั่ง
ตี 1 วันอาทิตย์ ถึงได้มีประกาศราชกิจจาฯ สั่งล็อกแคมป์คนงาน 10 จังหวัด
ทั้งยังลักหลับร้านอาหาร ห้ามประชาชนนั่งโซ้ยในร้าน ให้ซื้อห่อกลับบ้านเท่านั้น เจ้าของกิจการไม่ทันตั้งตัว ตื่นเช้ามาร้องจ๊าก
ส่วนเรื่องเดินทางข้ามจังหวัด สำหรับประชาชนทั่วไป ไม่ห้าม แค่ขอความร่วมมือให้งด
บรรยากาศบ้านเมืองปริ่มๆ ล็อกดาวน์
แผน 120วัน เปิดประเทศต้องลุ้นตัวโก่งจะรอดหรือพัง
มันฯ มือเสือ
