พันธมิตรบิ๊กตู่
ถึงเวลาทบทวน

คอลัมน์ทิ้งหมัดเข้ามุม

พันธมิตรบิ๊กตู่ ถึงเวลาทบทวน – ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

จุดที่คนส่วนใหญ่ยังรอฉีดวัคซีน รอตรวจ รอเตียง

ขณะที่โควิดสร้างความสูญเสียทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 2,600 ราย ป่วยสะสมกว่า 3.3 แสนราย ในจำนวนนี้กว่า 8 หมื่นรายยังนอนรักษาในร.พ.

เช้าแต่ละวันมีแต่ข่าวร้ายเกี่ยวกับผู้ที่สูญเสียคนในครอบครัว ศพป่วยตายนับร้อยถูกนำไปเผาจนเตาวัดแทบระเบิด

ประเทศที่ครั้งหนึ่งระบบสาธารณสุขได้รับความน่าเชื่อถือ อันดับต้นๆ ของโลกมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

หลายคนเชื่อว่าเป็นเพราะมันสมองของผู้นำ

นายกฯ เคยตำหนิสื่อเสนอเรื่องจำนวนคนป่วยใหม่รายวันโดยไม่เทียบจำนวนคนรักษาหายที่มีมากกว่า

แต่ปัจจุบันไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว คนป่วยใหม่มากกว่าคนรักษาหาย 5-6 พันคนต่อวัน

นั่นทำให้เกิดปัญหาวิกฤตอื่นตามมาไม่ว่าคนป่วยล้นโรงพยาบาล เตียงไม่พอ บุคลากรการแพทย์ไม่ได้สัดส่วนกับคนไข้

การมียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การสละเงินเดือน 3 เดือนกลายเป็นเรื่องไร้ความหมาย

โดยเฉพาะสิ่งที่ได้รับการเปิดเผยตามมาว่ายังดำรงตำแหน่งประธานองค์กรต่างๆ อีก 56 ตำแหน่ง ไม่รวมเรื่องบ้านหลวง น้ำ-ไฟฟรี

ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร มาสู่อีกคำถาม ถ้ารัฐบาลตัดสินใจซื้อวัคซีนดีๆ เสียตั้งแต่การระบาดรอบแรก

จะมีคนเจ็บป่วยล้มตายเป็นใบไม้ร่วงอย่างนี้หรือไม่

วัคซีนที่ดีและเร็วจะช่วยชีวิตคนไว้ได้มากมายเท่าไหร่

รัฐมนตรีบางคนเรียก “ไข้หวัดธรรมดา” ปรามาสว่า “โควิดกระจอก” ก่อนลงเอยด้วยการแทงม้าตัวเดียว

ถึงจะมาตะบันซื้อเพิ่มอีก 1 ตัวภายหลังแต่ก็มีปัญหาถูกเรียกเป็นวัคซีนจีที 200

การไม่ตระหนักถึงการระบาดระลอก 4 ยังสะท้อนจากการที่ผู้นำประกาศจะเปิดประเทศใน 120 วัน

การเดินหนีสื่อ แกล้งทำโมโห ทำตลกกลบเกลื่อน มุขเหล่านี้ใช้ไม่ได้อีกต่อไป ซ้ำจะยิ่งทำให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น

การชุมนุมประท้วงจากประชาชนหลายกลุ่มอาชีพผุดขึ้นราวดอกเห็ด

คะแนนนิยมในตัวผู้นำกำลังตกต่ำถึงจุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

พรรคพันธมิตรทางการเมืองและนายทุนผู้ให้การสนับสนุนทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง

อาจถึงเวลาต้องทบทวนว่าจะยังทำเช่นนั้นต่อไปหรือไม่

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน