สิ่งที่จนท.ต้องตระหนัก

คอลัมน์ทิ้งหมัดเข้ามุม

สิ่งที่จนท.ต้องตระหนัก – ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง สำหรับท่าทีของรัฐต่อการรับมือม็อบ 7 สิงหาที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนตู้คอนเทน เนอร์ ถังน้ำมันเชื้อเพลิง รั้วลวดหนาม ปิดกั้นเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังพระบรมมหาราชวัง

รวมทั้งการใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา ยิงถล่มใส่ม็อบอย่างถี่ยิบ เอากันตั้งแต่หัววัน ตั้งแต่ม็อบยังไม่ได้รวมตัว ราวกับว่าเป็นภัยคุกคาม ต้องขจัดให้สิ้นซาก

จึงกลายมาเป็นคำถามถึงหน่วยงานรัฐ ตั้งแต่ฝ่ายปฏิบัติ และฝ่ายนโยบายตั้งแต่ฝ่ายความมั่นคงถึงรัฐบาล ตลอดจนตัวนายกรัฐมนตรีเอง มองเห็นประชาชนที่ออกมาเรียกร้องเป็นอะไรกันแน่!??

แน่นอนว่าการออกมาขับไล่ ซึ่งก็เป็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่องกันมานับปี จุดหนึ่งก็เพราะที่มาของนายกฯ ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งด้วยระบบอุปถัมภ์ค้ำชู

แต่อีกอย่างหนึ่งที่เร่งเร้าให้คนต้องเดินหน้าขับไล่ต่อเนื่อง ก็เกิดจากประสิทธิภาพในการบริหารประเทศของรัฐบาลเอง








Advertisement

โดยเฉพาะเรื่องโควิด ที่คนส่วนใหญ่เห็นแล้วว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ที่สักวันอาจกล้ำกราย เข้ามาสู่ครอบครัว

และเมื่อเห็นความพร้อมเพรียงของจนท.ที่ดาหน้าถล่มม็อบ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเวลาเจอปัญหาโควิดถึงได้นิ่งสนิท

จนท.ที่ควรออกมาเป็นด่านหน้าเข้าถึงผู้ป่วย แทนที่จะมีแต่อาสากู้ภัย หรือ ชาวบ้านที่ต้องช่วยเหลือกันเอง ไปอยู่ไหนหมด

ยุทโธปกรณ์ ที่เสกนิรมิตค่ายกลสกัดม็อบ ทำไมไม่แปรเปลี่ยนเป็นงานโยธาฯ สร้างร.พ.สนาม หรือศูนย์ พักคอย

หรือการช่วยเหลือประชาชนมันยาก สู้ถล่มใส่ม็อบประชาชนมือเปล่า ไม่ได้!??

ยิ่งไปกว่านั้นการใช้กำลังอย่างเกินสัดส่วน โดยที่ไม่มีเหตุผลรองรับ เพราะแม้จะอยู่ในช่วงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไม่มีข้อไหนให้อำนาจจนท.กระทำอย่างหนักหน่วงกับคน เช่นนี้ได้

การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายผิดกฎหมายชัดเจน ดังนั้นการตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ตามกฎหมายของจนท. ที่ปฏิบัติจึงสำคัญยิ่ง

ไม่เช่นนั้น สักวันหนึ่งเรื่องเหล่านี้ ก็จะกลายเป็นคดีความที่ตามมาหลอกหลอนอย่างแน่นอน

แล้วอย่าโอดครวญว่าสังคมไม่ยุติธรรม!??

โดย รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน