ทิ้งหมัดเข้ามุม - นิรโทษวัคซีนใครคือเป้าหมาย?

นิรโทษวัคซีนใครคือเป้าหมาย? – การบริหารจัดการวัคซีนที่ผิดพลาดด้วยการ ‘แทงม้าตัวเดียว’

ได้นำพาสถานการณ์โควิดมาถึงจุดที่มีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทะลุเกินหลัก 2 หมื่น ผู้เสียชีวิตทำนิวไฮมากกว่า 200 ราย/วัน

ท่ามกลางวิกฤตที่ยังไร้ทางออก

ปรากฏรัฐบาลโดยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขได้ฉวยโอกาสจับปลาตอนน้ำขุ่น

ด้วยการผลักดันพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ….

ซึ่งจะไม่มีปัญหาอะไรเลยและถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป

หากร่างพ.ร.ก.ดังกล่าวมีเจตนาให้ความคุ้มครองจำกัดแค่เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่บุคลากรด่านหน้า ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ

ให้ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ในภาวะวิกฤตด้านสาธารณสุขของประเทศ โดยไม่ต้องวิตกกังวลกับความรับผิดต่างๆ หรือการถูกฟ้องร้องที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แต่ที่เป็นประเด็นถูกต่อต้านคัดค้านอย่างหนัก เพราะเนื้อหาร่างพ.ร.ก.ให้ความคุ้มครองครอบคลุมเลยไปถึงรัฐบาลและคณะผู้บริหารจัดการวัคซีน

ตรงนี้เองที่สังคมยอมรับไม่ได้ เนื่องจากการบริหารจัดการวัคซีนที่ผิดพลาดจนนำมาสู่วิกฤตในปัจจุบัน

เป็นเรื่องที่คณะผู้บริหารนโยบายซึ่งก็คือรัฐบาลและคณะผู้เกี่ยวข้องในการพิจารณาจัดหาวัคซีน ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ไม่เกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์หรือด่านหน้าซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบายแต่อย่างใด

หากรัฐบาลหรือกระทรวงสาธารณสุข ยืนกราน จึงไม่ผิดหากประชาชนจะเรียกเป็นกฎหมายนิรโทษเหมาเข่ง-สุดซอย

เอาบุคลากรทางการแพทย์เป็นฉากบังหน้า ฉากหลังพยายามดิ้นรนพาตัวเองพ้นผิด

นอกจากข้อสงสัยว่า เรื่องนี้จำเป็นเร่งด่วนต้องออกเป็นพ.ร.ก.หรือไม่ ทำไมไม่ออกเป็นพ.ร.บ.เพื่อให้สภาร่วมพิจารณา

ยังมี สัปดาห์ก่อนปลัดสาธารณสุขเพิ่งนำทีมรองปลัดและอธิบดีทุกกรม ยืนเรียงแถวแถลงปกป้องคณาจารย์หมอใหญ่จากหลายสถาบัน ที่กระทรวงสาธารณสุขเชิญมาเป็นที่ปรึกษา ไม่ว่าหมอยง หมอประสิทธิ์ ฯลฯ

ยืนยันทุกคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกำหนดนโยบายหรือจัดซื้อจัดหาวัคซีนแต่อย่างใด

คำถามคือในเมื่อไม่เกี่ยวแล้วทำไมถึงต้องออกกฎหมายคุ้มครอง

หรือว่าแท้ที่จริง ต้องการนิรโทษฯใครกันแน่?

มันฯ มือเสือ