คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย – รุก กลางกระดาน
เกมชิงอำนาจ ประชาชนไม่ได้อะไร
เป็นการเมืองดุเดือดที่ยังสรุปไม่ได้ว่าใครจะอยู่หรือใครจะไป
สำหรับความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ หรือลักษณะที่เรียกว่า ‘สนิมเกิดแต่เนื้อในตน’
เมื่อกลุ่มของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขอให้ที่ประชุมพรรคโหวตขับออกพ้นพรรค พร้อมส.ส.อีก 20 คน
พร้อมส่งสัญญาณไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย ที่ตั้งไว้สำรอง เตรียมเคลื่อนไหวต่อไป
แรงกดดันจึงอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมทันที เพราะถูกมองว่าพรรคใหม่ แห่งนี้ แม้จะยังสนับสนุนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็ต้องแลกกับสิ่งตอบแทน
อาจจะเป็นเก้าอี้รัฐมนตรีสัก 2 ตำแหน่ง!??
แม้พล.อ.ประยุทธ์ จะให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าไม่ปรับครม. ไม่ยุบสภา แต่สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด คำยืนยันจากปากนายกฯ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ น่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์จะกดดันพุ่งใส่พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็อย่าดูแคลนกันจนเกินไป
ที่ผ่านมาก็ย้ำตลอดไม่ถอดใจ ไม่ยอมแพ้ ซึ่งบางคนอาจเรียกว่าความมุ่งมั่น แต่บางคนอาจมองเป็นอีกอย่าง
แต่ก็เชื่อว่าคงมีทีเด็ด ก็หากไม่มีอะไรดี ไม่มีหลักประกันมั่นคง พล.อ.ประยุทธ์ เองก็คงอยู่ในตำแหน่งนายกฯ มาไม่ได้ถึง 8 ปี แถมยังใฝ่ฝันจะอยู่ยาวถึงปี 2570
แถมหากย้อนปมขัดแย้งกับ ร.อ.ธรรมนัสก่อนหน้านี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา แม้จะเคลียร์กันแล้ว แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่หยุดออกไปทำภารกิจ ว.5 ตามด้วยประกาศปลด ร.อ.ธรรมนัส-นางนฤมล พ้นจากรัฐมนตรี
เข้าทำนองใครขัดขวางเส้นทางต้องถูกขจัดโดยเร็ว และรุนแรง
เร็วๆ นี้เราจึงอาจจะเห็นอะไรแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีความ กระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็ว โดยเป้าหมายเป็นฝ่ายตรงข้ามของนายกฯ
อะไรที่ทำแล้วไม่ผิดในอดีต ปัจจุบันก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไป จนสุดท้ายต้องหันกลับมายอมสยบราบคาบ
น่าเสียดายที่กลเกมการเมืองที่ วางไว้ นอกจากสร้างความมั่นคงให้เก้าอี้พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ไม่มีอะไรที่เกี่ยวพันกับประโยชน์ของประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว
ยังคงต้องใช้ชีวิตตามยถากรรม ภายใต้เกมชิงอำนาจของชนชั้นสูง ต่อไป!!!
รุก กลางกระดาน