ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย-มันฯ มือเสือ : สนิมเนื้อใน กัดกร่อนถึงครม.

อยู่ในช่วงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก สำหรับรัฐบาล “เรือแป๊ะ” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่โดนสนิมเนื้อในกัดกร่อนเกิดรูรั่วหลายจุด

เริ่มจากสนิมเนื้อในพลังประชารัฐ ถึงร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะยกโขยง 21 ส.ส.ออกไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย แต่ก็ไม่ชัดเจนในจุดยืนว่าอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน สร้างความหวั่นไหวให้กับพล.อ.ประยุทธ์ไม่น้อย

ถึงขั้นต้องส่ง “แรมโบ้อีสาน” ไปจดตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ สำรองไว้เผื่อโดนเท

ส่วนสนิมเนื้อในสภาผู้แทนฯ เริ่มออกอาการองค์ประชุมล่มถี่ยิบ สัปดาห์ก่อนประชุม 3 วัน ล่ม 2 ครั้ง ตรวจสอบองค์ประชุมฝ่ายรัฐบาล ส.ส. ไม่เข้าร่วมเช็กชื่อเกือบ 100 คน

แยกแยะสายพันธุ์ เป็นส.ส. พลังประชารัฐ 43 คน ภูมิใจไทย 25 ประชาธิปัตย์ 15 ที่เหลือเป็นส.ส. พรรคเล็กกับพรรคปัดเศษ ส่วนส.ส. ก๊วนธรรมนัสไม่ร่วมเช็กชื่อ 18 คน

สิ่งที่หลายคนกังวลคือ ถ้าหากพล.อ.ประยุทธ์ปล่อยให้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไป ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ ไม่พ้นสมัยประชุมสภาหน้าเดือนพ.ค.ที่จะมีทั้งเรื่องกฎหมายงบประมาณฯ ปี 2566 มีทั้งเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ทั้ง 2 เรื่องนำไปสู่จุดจบของพล.อ. ประยุทธ์และรัฐบาลได้ทั้งสิ้น

จากพรรคลามมายังสภาผู้แทนฯ ล่าสุดสนิมลามกัดกร่อนถึงในรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล แท็กทีม 7 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยยื่นลาประชุมครม. เมื่ออังคารที่ผ่านมา แต่ละคนอ้างเหตุผลนู่นนี่นั่น

แต่จริงๆ คือทั้ง 7 คนไม่ต้องการมีส่วนร่วมพิจารณาวาระขอความเห็นชอบขยายสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีก 30 ปี จากปี 2572 ไปจนถึงปี 2602 แลกกับอัตราค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย ที่เสนอโดยกระทรวงมหาดไทยของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รองกลุ่ม 3 ป.

แม้ในที่สุด ครม.จะให้พักเรื่องไว้ รอมหาดไทยไปชี้แจงกับกระทรวงคมนาคมให้เคลียร์เสียก่อนแล้ว ค่อยมาว่ากันอีกที แต่งานนี้เล่นเอาพล.อ.ßประยุทธ์ถึงกับเครียดหนัก

อารมณ์ต่างจากพรรคภูมิใจไทย ที่ล่าสุดนายอนุทินลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข “ปลดล็อกกัญชา” พ้นบัญชียาเสพติดเป็นที่เรียบร้อย

ชูธงเป็นผลงานชิ้นโบแดง พร้อมแล้วสำหรับหาเสียงเลือกตั้งใหม่