ไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน สำหรับเรื่องราวความรับผิดชอบทางการเมืองที่ถูกตั้งคำถามต่อหัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์
สำหรับการแสดงออก ต่อกรณี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับคดีอนาจาร และข่มขืนหญิงสาวจำนวนมาก
ซึ่งแม้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค จะลาออกจาก 2 ประธานกรรมการเกี่ยวข้องกับงานด้านสตรีของรัฐบาลไปแล้ว แต่ก็ดูจะไม่เพียงพอ
และไม่ใช่แค่ในสังคมที่เห็นเช่นนั้น แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันเองต่างหากที่พากันตั้งคำถาม
ไม่ว่าจะเป็น นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.หลายสมัย อดีตรัฐมนตรีของปชป.เอง ที่ลาออกจากพรรค
พร้อมระบุเหตุผลชัดเจนว่าเป็นเพราะกรณีนายปริญญ์ และอยากเห็นกรรมการบริหารพรรคแสดงความ รับผิดชอบและสปิริตให้มากกว่านี้
ย้ำว่ามาตรฐานจริยธรรมต้องสูงกว่ากฎหมาย กก.บห.ชุดนี้เป็นคนชักจูง นายปริญญ์เข้ามาอยู่ในพรรค ถือเป็น ความรับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชน จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
ต่อด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังที่ถามกลางที่ประชุมพรรค ถึงความรับผิดชอบทางการเมืองของ นายจุรินทร์
แถมยังลากไปถึงกรณีกก.บห.ของพรรคที่ส่งข้อความในกลุ่มไลน์ผู้บริหารพรรค ว่ามีส.ส.และคนในพรรคคบชู้
ซึ่งก็ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ หรือคลี่คลายข้อสงสัยที่กระทบต่อชื่อเสียงพรรค
ไม่กี่วันจากนั้น นายกนก วงษ์ตระหง่าน ก็ยื่นลาออกจากรองหัวหน้าพรรค ให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องของสำนึกทางศีลธรรม ซึ่งแน่นอนว่าเกี่ยวพันกับเรื่องของนายปริญญ์อย่างแน่นอน
ส่วนอีกฟาก ก็มีข่าวนางมัลลิกา บุญมีตระกูล คนสนิทของนายจุรินทร์ ที่โพสต์ในไลน์กลุ่มเรื่องคนในพรรคคบชู้ ก็ยื่นใบลาออกแล้วเช่นกัน
ก็วิเคราะห์กันไปว่าเพื่อรับผิดชอบทำให้พรรคเสียชื่อ ลดกระแสกดดันต่างๆ นานา
จะมีก็แค่นายจุรินทร์ ที่ย้ำหนักแน่นว่าไม่ออก ด้วยเหตุผลที่ว่า ความ รับผิดชอบต้องมีขอบเขต หากเกินกว่านั้นจะกลายเป็นความไม่รับผิดชอบ
เป็นคำยืนยันของนายจุรินทร์ ซึ่งคงต้องดูกันว่าในที่สุดแล้วจะมีคนเคียงข้างนายจุรินทร์อยู่อีกกี่มากน้อย
และบทสรุปในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร!??
รุก กลางกระดาน