ทิ้งหมัดเข้ามุม - เลิกใช้พรก.ฉุกเฉินได้แล้ว

เป็นประเด็นคำถามและข้อเรียกร้อง ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ควรทำให้กระจ่างเสียที ว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะยกเลิกการบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศใช้มายาวนานกว่า 2 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2563

เพราะเห็นได้ชัดว่าเหตุผลสำคัญในการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งก็คือโรคระบาดโควิด-19 ก็ลดระดับความรุนแรงมาแล้วในระดับหนึ่ง

แน่นอนว่ายังคงไว้วางใจไม่ได้นัก ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อที่ถูกมองว่าการรายงานตัวเลขน้อยกว่าความเป็นจริง รวมทั้งสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่อาจเพิ่มขึ้นมา

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการคงไว้ซึ่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีความเหมาะสม เพราะก็มีกฎหมายปกติ อย่างพ.ร.บ.ควบคุมโรคไว้คอยจัดการดูแลปัญหาเหล่านี้อยู่

แถมที่ผ่านมาก็ผ่อนคลายถึงขั้นยอมให้ถอดหน้ากากในที่โล่งแจ้ง และปลดล็อกสถานบริการหลายประเภท

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่ซ้อนปัญหาถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาพลังงาน ปัญหาข้าวยากหมากแพง ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งเรื่องการฟื้นตัวจากสภาพโควิด การท่องเที่ยว และการลงทุนต่างๆ

ดังนั้นการคงไว้ซึ่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย่อมเป็นอุปสรรคต่อบรรยากาศที่ดี แถมยังสิ้นเปลืองงบประมาณ
ไม่เพียงแค่นั้น หากยังทำมึนงง ไม่ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย่อมทำให้รัฐบาลถูกข้อครหาว่าคงอำนาจพิเศษไว้โดยมีจุดประสงค์แอบแฝง ต้องการควบคุมการแสดงออกของประชาชน มากกว่าควบคุมโรคติดต่อ

ดังที่จะเห็นได้จากผู้ถูกคดีตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องโควิด หรือการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลมากน้อยเพียงใด ก็มีตัวเลขออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน

จึงเป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องทำให้ชัดเจน และไม่ต้องโยนให้ใครรับผิดชอบแทน หรือต้องให้ใครกดปุ่มสั่งการ

เพราะกฎหมายก็เขียนไว้ชัดว่าอำนาจการยกเลิกประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เป็นเรื่องของนายกฯ โดยตรง

ได้แต่หวังว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะรู้จักเรื่องภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ

แล้วทำอะไรที่มีประโยชน์สักที!!!

รุก กลางกระดาน