ทิ้งหมัดเข้ามุม - คนไทยหน้าแห้ง  พึ่งโรงจำนำ-หวย

คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินจำนวน 500 ล้านบาท

ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต่ออายุสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารออมสิน เพื่อให้สำนักงานธนานุเคราะห์ หรือโรงรับจำนำของรัฐบาล ออกไปอีก 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เพื่อเป็นเงินทุนสำรองหมุนเวียนในการรับจำนำและเสริมสภาพคล่อง ให้สอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น จนทำให้ประชาชนมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

กระบอกเสียงของรัฐบาลระบุว่าด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ส่งผลให้ประชาชนใช้บริการโรงรับจำนำเพิ่มขึ้น ครม.จึงเห็นว่า เพื่อป้องกันสภาพคล่องที่อาจตึงตัว จึงอนุมัติวงเงินเกินบัญชีไว้ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สามารถเบิกเพื่อนำไปบริหารจัดการและการให้บริการ

ขณะเดียวกัน การจำหน่ายสลากดิจิทัลงวดวันที่ 16 ส.ค. 2565 จำนวนสลากทั้งหมด 9,092,500 ฉบับ ที่ขายผ่านแอพฯ เป๋าตัง เพียงแค่ 20 ชั่วโมงมียอดจำหน่ายไปแล้ว 7,618,654 ใบ มีจำนวนผู้ซื้อ 1,118,981 ราย

โดยงวดวันที่ 1 ก.ย. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลอีก 1 ล้านฉบับ รวมเป็น 10,092,500 ฉบับ เริ่มเปิดให้ซื้อได้วันที่ 2 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าถึง 5 ทุ่มจนกว่าสลากจะหมด

ในขณะที่ประชาชนต้องพึ่งโรงรับจำนำและหวังมีชีวิตที่สะดวกสบายด้วยโชคลาภจากสลากดิจิทัลนั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กลับอวดอ้างว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องร้อยละ 3.3 ในปีนี้ และคาดการณ์จะเพิ่มเป็นร้อย 4.2 ในปีหน้า

ระบุเป็นผลจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้สูงในประเทศในครึ่งปีหลัง รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าไทยถือเป็นข่าวดีที่แนวโน้มขยายตัว ร้อยละ 7.9 จากที่เดิมที่ประมาณการไว้ร้อยละ 7.0 และในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องอีก

หัวหน้ารัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจดีมีแนวโน้มขยายตัวก้าวกระโดด แต่ทำไมประชาชนจึงมีแต่ยากจนลงเรื่อยๆ

ต้องพึ่งพาโรงจำนำถ้วนหน้า จนรัฐต้องกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง อีกทั้งยังหวังลมๆ แล้งๆ จากการเสี่ยงโชค!!

เภรี กุลาธรรม