ยังคงได้ไปต่ออีกครั้งสำหรับการพิจารณากฎหมายเลือกตั้งเกี่ยวกับการคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่าจะใช้แนวทางไหนระหว่างหาร 100 หรือหาร 500
เมื่อประธานรัฐสภามีหนังสือเรียกประชุมร่วมกันของ 2 สภาในวันที่ 15 ส.ค.อีกครั้ง ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะครบกำหนด 180 วัน
ซึ่งหากพิจารณาไม่ได้ เกิดสภาล่มอีกครั้ง ก็เท่ากับว่าการคำนวณสัดส่วนก็ต้องไปยึดหาร 100 ซึ่งเป็นร่างเดิมที่เสนอเข้ามาพิจารณา
ทั้งนี้ในเรื่องรายละเอียดว่าหาร 100 หรือหาร 500 อะไรจะดีกว่ากันก็คงถกเถียงกันได้เพราะจริงๆ แล้วก็มีข้อดี ข้อเสียกันคนละแบบ
การจะเลือกอะไร หากมีหลักการเหตุผลเพียงพอ ก็เชื่อว่าสังคมเข้าใจและรับได้
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือก่อนหน้านี้ในการรับหลักการ ในชั้นกมธ. ก็ตกลงกันชัดเจนว่าจะเป็นหาร 100 เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
แต่จู่ๆ กลับถูกกดปุ่มจากผู้มีอำนาจ ส.ส.พปชร.-พรรคร่วม ก็เลยเลือกโหวตมาใช้หาร 500
แต่ต่อมาก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้กลับไปใช้แนวหาร 100 จนต้องเล่นเกมจนสภาล่มเป็นว่าเล่น!!!
Advertisement
อดคิดไม่ได้ว่าที่ส่งสัญญาณก่อนหน้านั้นให้พลิกโหวตหาร 500 ก็เพื่อเอาใจพรรคเล็ก สร้างความหวังมีโอกาสเข้าสภาอีกคำรบ
แต่พอเสร็จสมอารมณ์หมาย ได้เสียงโหวตเพียงพอก็ส่งสัญญาณพลิกอีก เหมือนที่มีข่าวขาใหญ่โทรศัพท์ล็อบบี้ให้ส.ส.ออกนอกห้องประชุม
งานนี้หักหลังกันเองหรือไม่ คงต้องพิจารณา!!!
อย่างไรก็ตามแม้จะได้โอกาสประชุมกันอีกเฮือกสุดท้าย แต่ผลออกมาก็คงไม่แตกต่าง
และต้องยอมรับว่าเป็นการใช้กลไกทางสภาตามกฎหมายกำหนด แม้จะมีการตั้งคำถามถึงความเหมาะสมบ้างก็ตาม
แต่ก็ยังดีกว่าในอดีตที่ใช้วิธีก่อความวุ่นวายในสภา บุกล้อมกรอบประธานสภา ขว้างเก้าอี้ บีบคอส.ส.
พฤติกรรมเหล่านี้เป็นพรรคการเมืองไหนยังคงจำได้ดี
และที่แย่กว่านั้นก็คือการทรยศประชาชน ออกบัตรเชิญรัฐประหาร ยอมเป็นนั่งร้านเผด็จการ
แถมยังออกมาข่มขู่หากไม่แก้กติกาให้เป็นไปตามต้องการก็อาจจะเกิดปฏิวัติรัฐประหารอีกรอบ
ไม่ได้สำนึกหรือละอายกันเลยแม้แต่น้อย
จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องพิจารณาว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังจะให้โอกาสกลับเข้าสภาอีกหรือไม่!!!
รุก กลางกระดาน