การย้ายพรรค จับขั้วเปลี่ยนข้างของบรรดาส.ส.และนักการเมือง เป็นเรื่องปกติในช่วงเริ่มเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง
ไม่ว่ากรณีนายกรณ์ จาติกวณิช ลอยแพพรรคกล้า ไปอยู่กับชาติพัฒนาของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หรือ ส.ส.-อดีตส.ส.หลายคนที่ย้ายพรรคเป็นว่าเล่น ไม่ว่าโดนดูด หรือเพราะอุดมการณ์ตรงกัน
กับอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากกติกาเลือกตั้งบัตรสองใบ สูตรคำนวณหาร 100 ที่อาจทำให้พรรคเล็กหาทางเข้าสภาไม่เจอ
นักการเมืองจึงต้องเริ่มขยับโดยเฉพาะพรรคที่ไม่ใหญ่โตนัก พรรคขนาดกลาง และอาจหมายรวมถึงพรรคใหญ่ ที่ต้องปรับยุทธศาสตร์ให้สอดรับกับกติกาเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลง เสริมทัพให้แข็งแกร่ง
พรรคใหญ่ที่ว่าคือพลังประชารัฐ ล่าสุดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แบะท่าเปิดทางให้พรรคเศรษฐกิจไทยของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยกโขยง ส.ส.กลับคืนสู่เหย้า
“พื้นที่ไหนที่พรรคเศรษฐกิจไทยส่งลง เราก็ไม่ลง ไม่เป็นอะไร รวมถึงในพื้นที่ภาคเหนือด้วย” พล.อ.ประวิตรกล่าวระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ตาก โดยมี ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยแห่ต้อนรับขับสู้
ส่วนแนวโน้มจะกลับมารวมกับพลังประชารัฐเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่ “ก็แล้วแต่เขา”
เหมือนพล.อ.ประวิตรเป็นฝ่ายทอดสะพาน แต่ที่จริงแล้วถึงแม้ร.อ.ธรรมนัส จะแยกจากพลังประชารัฐไปตั้งพรรคของตัวเอง โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พักงาน เป็นสาเหตุหลัก
Advertisement
แต่สะพานเชื่อมกับพล.อ.ประวิตร ยังอยู่ ไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง แค่รอเวลากลับมาใช้งานสานต่อ
ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เลขาฯ เศรษฐกิจไทย พูดถึงเรื่องนี้ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ต้องให้เกิดการพูดคุยกันจริงๆ ก่อน ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน และไม่มีปัจจัยหรือเงื่อนไขอะไรประกอบการตัดสินใจที่จะกลับมาทำงานในนามพรรคเดียวกัน
พรรคเศรษฐกิจไทยและพล.อ. ประวิตร ทำงานร่วมกันได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ปัญหา แต่การเมืองมีหลายองค์ประกอบและต้องหารือตัดสินร่วมกันในพรรค
ถึงอย่างนั้น ไผ่ ลิกค์ ยอมรับว่าปัจจัยเรื่องวาระนายกฯ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ อาจเป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ ต้องดูทุกอย่างประกอบกัน
มหากาพย์ศึกสามเส้า “ประวิตร ประยุทธ์ ธรรมนัส” จะลงเอยอย่างไร ประยุทธ์จะได้กลับมาหรือไม่
คอการเมืองได้ลุ้นกันสนุกแน่
มันฯ มือเสือ
