สภาส่งท้ายปิดสมัยประชุมด้วยการเปิดศึกตะลุมบอน
ชนวนจากส.ส. 198 ต่อ 136 เสียง เห็นด้วยให้ถอนร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย ออกจากวาระประชุมสภาฯ
ใน 198 เสียงที่ให้ถอน มาจากหลายพรรค ทั้งพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล กับฝ่ายค้านนำโดยพรรคเพื่อไทย
ส่วนก้าวไกลที่ไม่เห็นด้วยกับการถอนร่าง ไม่ใช่ไม่คัดค้านร่างกฎหมาย ไม่ได้คิดกระชับมิตรกับภูมิใจไทย แค่ต้องการให้สภาฯ พิจารณาไปก่อนแล้วค่อยโหวตคว่ำทีหลัง
ภูมิใจไทยกล่าวหาเรื่องนี้มีเกมการเมืองเตะถ่วงอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้งที่แต่ละพรรคต้องทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายคะแนนนิยมพรรคคู่แข่ง
ดูเหมือนข้อกล่าวหานี้จะพุ่งไปที่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันอย่างประชาธิปัตย์ มากกว่าฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย
สะท้อนจากคำพูดเสี่ยหนู อนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ว่า
“ดีเสียอีกที่เป็นแบบนี้ พรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุนกันเอง ใกล้เลือกตั้ง ไอ้ที่จะต้องเกรงใจอะไรกัน ก็ไม่ต้องเกรงใจ”
Advertisement
ต้องจับตาจากนี้ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์ ที่มีสนามภาคใต้เป็นเดิมพัน จะไปต่อกันยังไง
ก็แปลกที่ภูมิใจไทยไม่เหวี่ยงใส่พลังประชารัฐ ทั้งที่มีส.ส.ถึง 47 เสียงที่โหวตให้ถอนร่าง
พูดถึงเนื้อหาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ที่ถูกถอนกลับไปให้กรรมาธิการทบทวน ถ้าตัดเรื่องเกมการเมืองที่กล่าวหากันออกไป ข้อชี้แจงทั้งของเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ถือว่ามีเหตุผลต้องรับฟัง
เพราะนอกจากเนื้อหาในร่างพ.ร.บ.จะล้นเกินจากหลักการวาระแรก เพิ่มจาก 46 มาตรา เป็น 95 มาตรา ไม่มีการควบคุมการนำกัญชาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
ยังส่อไปในทางส่งเสริมให้มีการนำไปใช้ในทางนันทนาการ ด้วยการกำหนดให้ปลูกกัญชาในครัวเรือนได้เพิ่มจาก 10 เป็น 15 ต้น
ตรงนี้ทำให้หลายคนห่วงจะเป็นการเปิดช่องให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงกัญชาได้ง่าย
ส.ส.เป็นตัวแทนประชาชนเข้าไปทำหน้าที่ออกกฎหมาย เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศและความผาสุกของประชาชน จึงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่มุ่งแต่หาคะแนนเสียงใส่ตัว หรือพรรค
เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็อ้างเป็นเกมการเมือง
มันฯ มือเสือ