ทิ้งหมัดเข้ามุม - หวังผลเอเปค ค้ากำไรเกินควร

ถนนทุกสายมุ่งสู่การประชุมเอเปค ทอดยาวต่อไปถึงมหกรรมฟุตบอลโลก 2022 ที่จะไปสิ้นสุดวันที่ 18 ธันวาคม

2 เรื่อง 2 รส ดึงความสนใจผู้คนจำนวนมากไปจากข่าวเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ชั่วคราว อย่างน้อยก็ 1 เดือนจากนี้

หลังจบเอเปคต้องมาให้คะแนนตัดเกรด รัฐบาลสอบผ่านหรือสอบตกกับการจัดอีเวนต์ระดับโลกครั้งนี้ สำนักโพลต่างๆ อาจต้องจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นประชาชน เพื่อหาข้อสรุป

เอเปคช่วยฉุดกระชากเรตติ้งรัฐบาล โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มากน้อยขนาดไหน พุ่งกระฉูดหรือทรงตัวเท่าเดิม

ตลอดเวลาในอำนาจ 8 ปีเต็มจนล้น

รัฐบาลประยุทธ์ใช้งบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชนแล้วกว่า 28.5 ล้านล้านบาท ประเทศเป็นหนี้ทะลุ 10 ล้านล้าน หนี้ครัวเรือนพุ่ง 14.6 ล้านล้าน คนลงทะเบียนบัตรคนจนมากกว่า 22 ล้านคน

เงินเฟ้อทำสถิติ เงินบาทอ่อนค่า ค่าไฟแพงสุดในประวัติศาสตร์

ล่าสุดมีแนวโน้มตั้งแต่เดือนแรกปีใหม่ 2566 ไปถึงเดือนเม.ย. ค่าไฟอาจปรับขึ้นอีกจากค่าเฉลี่ย 4.72 บาทต่อหน่วยในปัจจุบัน เป็นอย่างต่ำ 5.37 บาท ระดับกลาง 5.70 บาท หรือสูงสุดปรับขึ้นเป็น 6.03 บาท

ยังไม่นับนโยบายพรรคแกนนำรัฐบาลที่หาเสียงไว้เมื่อปี 62 แต่มีการตรวจสอบว่าทำไม่ได้สักเรื่อง

ค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท จบอาชีวะเริ่มต้นหมื่นห้า ป.ตรี สองหมื่น มารดาประชารัฐ ตั้งครรภ์รับ 3,000 บาท/เดือน ค่าคลอดบุตร 10,000 บาท ค่าดูแลเด็ก 2,000 บาท/เดือน จนเด็ก 6 ขวบ เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท/เดือนเท่ากันทุกคน ฯลฯ

ประชาชนเจ้าของแผ่นดินและภาษี โปรดใช้วิจารณญาณไตร่ตรองผลงานเจ้าภาพจัดเอเปคไม่กี่วัน จะนำมาหักล้าง กลบเกลื่อนผลงานที่ทำไว้ตลอด 5+3 ปีที่อยู่ในอำนาจ ได้หรือไม่

มีคนไทยเท่าไหร่ที่รู้สึกอินกับงานอีเวนต์นี้ บางคนเรียกชื่อไม่ถูกต้องเสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ไม่เข้าใจเนื้อหาสาระประชุมเอเปคคืออะไร ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน หรือกลุ่มคนที่ได้หน้ามีแต่นายกฯ กับรัฐบาล

เมื่อเวลาเลือกตั้งมาถึงชาวบ้านเขาดูพรรคการเมืองตรงนโยบายที่นำเสนอ พฤติกรรม ผลงานที่ผ่านมาว่าทำได้จริงหรือไม่ จัดเอเปคไม่กี่วันแล้วหวังจะกอบกู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำพังมาตลอด 8 ปี

ถือว่าเพ้อฝัน คิดค้ากำไรเกินควรไปมาก

มันฯ มือเสือ