พักเรื่อง “ลุงตู่-ลุงป้อม” แยกกันเดิน แยกกันตี ไว้ชั่วคราว
ปรับโฟกัสการเมืองไปวันพุธ 30 พ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงคำวินิจฉัยร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ในประเด็นสำคัญสูตรคำนวณหาส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหาร 100 ขัดหรือแย้ง และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่
“จะเป็นวันชี้ชะตาบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่งว่าผลตัดสินออกมาอย่างไร จะเกิดผลต่อการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มีทั้งจะนำบ้านเมืองไปสู่ทางตันและทางโล่งเราเคารพคำตัดสิน แต่คาดหวังว่าอย่างไรเสีย เราก็อยากให้ไปสู่ทางโล่ง บ้านเมืองเดินไปได้” นายสุทิน คลังแสง ส.ส.เพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุ
7 วันก่อนหน้า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าร่างพ.ร.ป.พรรคการเมือง ไม่มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
หลายคนคาดหวังกรณีร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ผลลัพธ์จะออกมาในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากการเลือกตั้งใกล้เข้ามามากแล้ว หากมีกฎหมายที่สมบูรณ์ออกมารองรับ ทุกอย่างก็จะราบรื่นไม่ติดขัด
แต่การเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน ดูอย่างสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่พลิกกลับไปกลับมา เริ่มต้นสูตรหาร 100 กลางทางพลิกเป็น 500 สุดท้ายปลายทางกลับมาเป็นหาร 100 ตามต้นร่างเดิม
ทำให้สมาชิกส.ส.และส.ว. 105 คนเข้าชื่อเสนอประธานรัฐสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ศาลรับเรื่องและใช้เวลา 2 เดือนเศษพิจารณา เสร็จสิ้นแล้วจึงนัดลงมติพร้อมแถลงคำวินิจฉัย
พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ร่างขึ้นเพื่อให้สอดรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวเป็น 2 ใบ เลือกส.ส.เขตกับส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ปรับสัดส่วนจาก 350 ต่อ 150 ในการเลือกตั้งปี 62 มาเป็น 400 ต่อ 100 ที่จะใช้กับเลือกตั้งครั้งหน้าปี 66
ถ้าผ่านด่านไปได้เท่ากับสตาร์ตเครื่องรอเลือกตั้ง ถ้าไม่ผ่านก็ต้องดูว่าจะเดินต่อไปสู่จุดนั้นอย่างไร
การตั้งความหวังว่าคำวินิจฉัยจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ทางโล่ง เป็นการมองมุมบวก ขณะเดียวกันผู้เกี่ยวข้องสามฝ่ายไม่ว่า กกต. รัฐบาล และสมาชิกรัฐสภา
ต้องร่วมคิดอ่านหาทางรับมือหากสถานการณ์ออกมาในมุมไม่บวกด้วยเช่นกัน ให้ทันต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น
มันฯ มือเสือ