ส่งสัญญาณเดือดกันมาเลยทีเดียว สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่กำหนดวันไว้ล่วงหน้าว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 7 พ.ค.

แม้จะยังไม่ประกาศยุบสภา แต่ทุกพรรคการเมือง ก็เร่งเครื่องกันเต็มสูบ ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนกันอย่างเอาจริงเอาจัง

ตามมาด้วยการประกาศนโยบายต่างๆ นานา ซึ่งจะต้องพิสูจน์ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน รวมทั้งการตรวจสอบต่อเนื่องว่าที่พูดไว้ทำได้จริงหรือว่าแค่หาเสียง

อย่างไรก็ตามมีประเด็นที่น่าสนใจว่าแทนที่การแข่งขันจะขับเคี่ยวกันระหว่างฝ่ายรัฐบาล กับฝ่ายค้านในปัจจุบันเพราะมีจุดยืนอุดมการณ์กันคนละขั้ว

แต่ข้อเท็จจริงกลับกลายเป็นการห้ำหั่นกันระหว่างคนในพรรครัฐบาลมากกว่า

โดยมี ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ต้นสังกัดของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวนำ!!!

ไล่ตั้งแต่การแยกทางระหว่างพี่น้อง 2 ป. เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ หันไปซบรวมไทยสร้างชาติ ทิ้งพล.อ.ประวิตร ให้เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ก็เริ่มวิวาทะด้วยจดหมายน้อยพล.อ. ประวิตร พูดถึงการรัฐประหารว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งหมดดำเนินการโดยพล.อ.ประยุทธ์คนเดียว








Advertisement

ต่อมาเมื่อพล.อ.ประวิตร ประกาศนโยบายเพิ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท แล้วนำไปหาเสียงทั่วประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ ก็เกทับบลัฟแหลกเพิ่มเงินให้เป็น 1,000 บาท

เล่นเอาพี่ใหญ่ต้องมองตาปริบๆ!!

กับภูมิใจไทย ที่ออกแนวรักใคร่กลมเกลียวก่อนหน้านี้ ก็มีประเด็นร้อน เมื่อจู่ๆ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ บุกทำเนียบฯ ปิดห้องคุยกับพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้ารวมไทยสร้างชาติ ระบุเป็นเรื่องทุจริตในกระทรวงคมนาคม

ตีไปที่กล่องดวงใจเต็มๆ!!

ไม่เพียงแค่นั้น ชาติไทยพัฒนา ที่มีศูนย์กลางอยู่สุพรรณบุรี ก็ต้องเปิดเวทีปราศรัยถี่ยิบ รักษาฐานที่มั่นตัวเองให้ได้ หลังออกมาโวยถูกพรรคลุงตู่ตีท้ายครัว ดอดจีบผู้สมัคร แถมลงพื้นที่หาเสียงแบบไม่ไว้หน้า

และยังมีประชาธิปัตย์ ที่เปิดเวทีปราศรัยภาคใต้ โจมตีพรรคที่ตกปลาในบ่อเพื่อน ซึ่งรู้ๆ กันอยู่ว่าหมายถึงพรรคการเมืองไหน

สะท้อนให้เห็นแม้ 4 ปีพรรคร่วมรัฐบาลจะอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์อย่างเรียบร้อย

แต่พอจะเลือกตั้ง ทุกพรรคย่อมไม่ยอมเป็นผู้ถูกกระทำฝ่ายเดียว

เส้นทางของพล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่ได้สดใสกาววาว และต้องเจองานหนักกว่าที่เป็นมาแน่นอน!!!

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน