รัฐสภาปิดสมัยประชุมเรียบร้อย จากนี้บรรดาส.ส.ก็อยู่รอเมื่อไหร่นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภา
จะเป็นฤกษ์วันธงชัย 8, 15 หรือ 22 มีนาคม ต้องติดตามลุ้นกันต่อไป
แต่ความจริงยุบสภาเมื่อไหร่ วันไหน ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เพราะสังคมเข้าใจตรงกันตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศจะมีการเลือกตั้งตามไทม์ไลน์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กำหนดไว้ดีเดย์ 7 พฤษภาคม หรือนับจากนี้อีก 2 เดือนกับ 7 วัน
สำหรับประชาชนทั่วไปเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมพร้อมมาเป็นปีสำหรับการเลือกตั้งที่ใกล้มาถึง
คำถาม คือ พรรคการเมืองทั้งหลายพร้อมลงสนามสู้ศึกครั้งนี้ขนาดไหน โดยเฉพาะพรรคตั้งใหม่ของผู้ต้องการกลับมาครองอำนาจ
ซึ่งมีความพยายาม “ตกปลาในบ่อเพื่อน” จนได้ปลาซิวปลาสร้อยไปแล้วร่วม 40 ตัว
เท่านั้นไม่พอ ยังได้สื่อสารกระจายข่าว เคลมผลงานพรรคเพื่อนพรรคพี่ที่อยู่ร่วมรัฐบาลกันมานาน 4 ปีเต็ม
Advertisement
ในการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เมืองย่าโม โคราช เสาร์ที่ผ่านมา ได้ประกาศนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากหลักร้อยเป็นหลัก 1,000 บาท
ภายใต้ชื่อบัตรสวัสดิการพลัส เกทับนโยบาย “ลุงป้อม 700” แบบซึ่งหน้า
โครงการไหนของรัฐบาลที่ว่าดี ประสบความสำเร็จ ประชาชนพูดถึง แต่เป็นโครงการในกำกับดูแลของพรรคเพื่อน
พรรค “ขี้ตู่” ก็จะเหมารวมเป็นผลงานตัวเอง อ้างว่าทุกโครงการไม่ว่าแก้ท่วม แก้แล้ง แก้จน สู้โควิด ฉีดวัคซีน สร้างถนน รถไฟฟ้า ช่วยเหลือเกษตรกร ประกันรายได้ ฯลฯ
ทั้งหมดล้วนต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีที่มีนายกฯ เป็นประธานในฐานะผู้นำรัฐบาล
ล่าสุดเกิดกระแสข่าวยังไม่รู้จริงเท็จ ถึงการใช้ “เสี่ยจอมแฉ” เป็นเครื่องมือโจมตีนโยบายพรรค “หนู”
“หนู” ผู้เคยยื่นมือช่วย “ราชสีห์” รอดพ้นกับดักนายพรานหลายครั้ง ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
เลือกตั้งครั้งนี้ หนูคิดทาบรัศมี ต้องการขึ้นเป็นราชสีห์เอง ก็เลยโดน “แทงหลัง”
สุดท้ายก็แปลกตรงที่ตกปลาบ่อเพื่อนก็แล้ว เคลมผลงานพรรคอื่นก็แล้ว แต่ทำไมกระแสพรรคของตัวเองกลับไม่กระเตื้องขึ้นเท่าที่ควร
ทั้งเนื้อหา ทั้งสีสัน สู้พรรคของ “ลุง” อีกคนไม่ได้ด้วยซ้ำ
ดูจากสภาพการณ์ตอนนี้ ถ้าบรรดาคู่แข่งไม่โดนร้อง “ยุบพรรค” เสียก่อน
“พรรคขี้ตู่” ติดท็อปโฟร์ได้ ต้องถือว่าเก่งมากแล้ว
มันฯ มือเสือ
