เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้วสำหรับศึกเลือกตั้ง 66 แต่ละพรรคการเมืองทุ่มเททุกสรรพกำลังเพื่อให้ได้คะแนนนิยมสูงสุด
หวังจัดตั้งรัฐบาล และนำนโยบายที่เสนอต่อประชาชนทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
ที่น่าสนใจคือการต่อสู้ที่ดุเดือดไม่ได้เกิดขึ้นจากฝ่ายค้านและรัฐบาลเดิม
แต่กลับเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน อย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่ช่วงชิงฐานมวลชนอย่างเต็มที่
เดือดขนาดไหนดูปฏิกิริยาจาก ‘นางแบก’ และ ‘ติ่งส้ม’ ที่ซัดกันนัวในโลกออนไลน์และลามมาสู่ในโลกความเป็นจริง
จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกรงว่าจะตัดคะแนนกันเอง จนอาจเปิดโอกาสให้ฝ่ายอนุรักษนิยมสืบทอดอำนาจได้มีโอกาส ‘ไปต่อ’ จากส.ส.ที่ได้รับ และเสียง 250 ส.ว.ที่ตุนไว้ในมือ
เริ่มมีการพูดถึงเรื่องการโหวตเชิงยุทธศาสตร์
แต่อีกด้านก็บอกว่านี่คือการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย นำเสนอนโยบาย จุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา
Advertisement
นั่นก็คือให้ประชาชนตัดสินใจกันตรงๆ ว่า ชอบแนวทางของพรรคการเมืองใด แล้วตัดสินใจเลือกเข้าไปทำหน้าที่
เลือกด้วยความชอบ ไม่ใช่เลือกด้วยความเกลียด หรือความกลัว!??
เอาเข้าจริงแล้วก็ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง ล้วนเป็นไปได้หลากหลายความน่าจะเป็น หรือพูดง่ายๆ ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้
แต่ถามว่าเป็นเรื่องที่ต้องกังวลถึงขั้นนั้นหรือไม่!??
เพราะทั้งก้าวไกลและเพื่อไทย ก็ยืนยันไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกับ 2 ลุง
แม้จะไม่มีใครพูดว่า เพื่อไทย และก้าวไกลจะร่วมรัฐบาลกัน แต่โอกาสก็สูงมาก
จึงน่าจะลดบรรยากาศที่ตึงเครียดของกองเชียร์ได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจก็คือบรรดากลุ่มที่หวังจับปลาตอนน้ำขุ่น เห็นเขาทะเลาะกัน หวังบิดเบือนผลเลือกตั้ง ผลฉันทามติของประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นกลไกจากมือที่มองไม่เห็น หรือมือที่มองเห็นอย่าง 250 ส.ว.
หากเป็นเช่นนั้นบรรยากาศที่ต่อสู้กันเองของ 2 พรรคก็อาจจะหันมาจับมือสามัคคีกันอีกครั้ง
และบทสรุปของเหตุการณ์คงเกินที่จะคาดเดา!!!
รุก กลางกระดาน