เป็นข่าวใหญ่ต่อเนื่องตั้งแต่กลางสัปดาห์ก่อน ตีคู่ไปกับข่าวการโหวตนายกฯ และการเขย่าขั้วตั้งรัฐบาล
สำหรับทักษิณ ชินวัตร หรือ “พี่โทนี่” แห่งคลับเฮาส์ ชัดเจน 99 เปอร์เซ็นต์ จะเดินทางกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. ส่วนที่เหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ ต้องรอการปรากฏโฉมตัวเป็นๆ ที่สนามบินดอนเมือง
ช่วง 4-5 วันมานี้ หลายฝ่ายตั้งวงวิเคราะห์โขมงโฉงเฉง ถึงการกลับมาของ “คนแดนไกล” จะส่งผลดีหรือไม่ดี ต่อการเมืองไทยที่กำลังฝุ่นตลบขณะนี้อย่างไร
ทักษิณเคยพูดยืนยันหลายครั้งตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.ด้วยซ้ำไป ว่าการ “ได้ตั๋ว” เดินทางกลับบ้านเกิดในรอบ 17 ปีครั้งนี้ ไม่มีอะไรเป็นภาระให้กับพรรคเพื่อไทย
แกนนำเพื่อไทยต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียว การกลับมาของทักษิณ เป็นเรื่องส่วนตัวของคนจากบ้านไปนาน แล้วอยากกลับมาอยู่พร้อมหน้าครอบครัว อยากกลับมาเลี้ยงหลานตาหลานปู่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับพรรค
หลายคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ครึ่งที่ไม่เชื่อก็เพราะทักษิณ ไม่เพียงเป็นบิดาผู้ให้กำเนิด “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร แคนดิเดตนายกฯ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
แต่ยังเป็นผู้ให้กำเนิดพรรคไทยรักไทย ที่สืบสานโดยพรรคพลังประชาชน มาถึงเพื่อไทยในปัจจุบัน
ดังนั้น การที่บางคนพูดถึงทักษิณว่าเป็น “ผู้นำจิตวิญญาณ” พรรคเพื่อไทย จึงไม่ผิดไปจากความเป็นจริงเท่าใดนัก
โดยเฉพาะจากข่าวจริงมั่งมั่วมั่ง ที่ว่า ทักษิณคือหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในสถานการณ์การเมืองไทยปัจจุบัน ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย
การกลับมาของทักษิณ ยังอยู่ในห้วงเวลาคาบเกี่ยวกับการโหวตนายกฯ ที่เปลี่ยนตัวจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แห่งก้าวไกล มาเป็นเศรษฐา ทวีสิน แห่งเพื่อไทย
ในจังหวะที่ท่านประธานวันนอร์ มีคำสั่งนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 3 วันศุกร์ที่ 4 ส.ค.2566 วาระเร่งด่วนแรกคือ พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ
นายกฯ คนใหม่จะชื่อ “เศรษฐา” หรือไม่ กระบวนการได้มาซึ่งนายกฯ คนที่ 30 ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 2 เดือน จะจบลงในวันที่ 4 ส.ค.นี้เลยหรือไม่ หรือมีเหตุให้ต้องเลื่อนไปเป็นครั้งที่ 4
10 ส.ค. ทักษิณจะกลับมาจริงหรือไม่ กลับมาแล้วจะ “โดนหลอก” เหมือนที่ครอบครัวเป็นห่วงหรือไม่ ถ้าไม่ ก็ต้องรอดูต่อไปว่าผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย จะมีส่วนทำให้การเมืองไทยแปรเปลี่ยนไปอย่างไร
คลายเกลียว หรือ เขม็งเกลียว มากกว่าเดิม?
มันฯ มือเสือ
