คงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า รัฐบาลที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ คนที่ 30
พร้อมดึงพรรคการเมืองหลากหลายเข้ามาร่วม โดยเฉพาะพรรค 2 ลุงที่ต้องเข้ามาเพิ่มเสถียรภาพให้กับรัฐบาล ซึ่งล่าสุดหยุดอยู่ที่ 315 เสียง
ขณะที่สว.คงจะไม่มีอุปสรรคใดๆ อีกต่อไป และมีแนวโน้มที่จะได้รับเสียงสนับสนุนถล่มทลาย
แน่นอนว่าทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย การตัดสินใจทุกอย่างจึงเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเองต้องพิจารณาว่าสิ่งที่ได้มา คุ้มกับการที่ต้องเสียไปหรือไม่
หากยืนยันหนักแน่นว่าเป็นการทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อแก้ไขวิกฤตต่างๆ ตามที่กล่าวอ้างจริง ก็คงเป็นเรื่องที่จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจ และให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
แต่หากมีจุดประสงค์แอบแฝง อย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกต ก็คงเป็นเรื่องยากจริงๆ ที่ประชาชนจะยอมรับได้
อย่างไรก็ตามต่อจากนี้ถือเป็นงานหนักของรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ
เพราะเหตุผลหนึ่งที่ยกมาเป็นสาเหตุการรีบตั้งรัฐบาลที่สำคัญ ก็คือเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากการบริหารงานที่มีปัญหามาตลอด 9 ปี
จากนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ฝีมือของเพื่อไทย ที่ชูเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นสำคัญ จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ประชาชนรับรู้ได้มากน้อยเพียงไหน
โดยก้าวแรกที่จะถูกจับตานั่นก็คือการตั้งคณะรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศ ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
เพราะไม่มีใครหรอกที่อยากได้ครม.ยี้ๆ มาบริหารประเทศ
และไม่น่าจะเป็นคนหน้าเดิม ที่เคยอยู่ในครม.เดิมๆ อยู่ในครม.ที่พรรคเพื่อไทยเอง ก็บอกว่าบริหารมีปัญหาจนประเทศเกิดวิกฤต
ซึ่งก็ต้องดูว่าเพื่อไทยจะใช้วิธีอะไรเพื่อให้ได้มา จะยึดกุมการนำ และอำนาจตัดสินใจ หรือจะถูกขี่ ถูกข่มแบบที่คนวิเคราะห์กัน อีกไม่นานก็คงรู้กัน
แต่ที่แน่ๆ หากไม่มีการปรับเปลี่ยน ประชาชนก็คงไม่รู้สึกว่าแตกต่างกับรัฐบาลเก่าอย่างไร
ยังคงเป็นขั้วการเมืองเก่าที่บริหารประเทศมา 9 ปี !!!
รุก กลางกระดาน
