ถูกวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวางโครงการเรือดำน้ำจีน มูลค่ามหาศาลเกือบ 4 หมื่นล้านบาท ที่ต้องชะลอโครงการไว้ก่อนเนื่องจากความบกพร่องผิดพลาดของรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องในกองทัพก่อนหน้านี้

เพราะทำสัญญาจัดซื้อกับรัฐบาลจีนอย่างไม่รอบคอบรัดกุมเพียงพอ มีแต่ตัวเรือ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนไม่มี เนื่องจากเยอรมันเจ้าของเทคโนโลยีไม่ขายให้

แม้จีนจะเสนอเครื่องยนต์ที่ผลิตเองทดแทน แต่ก็มีคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพ เนื่องจากยังไม่เคยมีการใช้ในเรือดำน้ำมาก่อน แม้แต่กองทัพเรือจีนเองก็ตาม

ก็น่าเห็นใจรัฐบาลเศรษฐาซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องโครงการเรือดำน้ำเลยแต่อย่างใด แต่ต้องมารับเผือกร้อนเรื่องนี้

โดยเฉพาะนายสุทิน คลังแสงรมว.กลาโหม ที่ต้องเป็นคนประสานเจรจากับกองทัพเรือเพื่อหาทางออกอย่างประนีประนอมให้มากที่สุด และฝ่ายไทยจะต้องไม่เสียเปรียบ

ประกาศสำคัญคือสังคมจะต้องรับได้ด้วย

ดังนั้น เมื่อต้องชะลอเรือดำน้ำไว้ก่อน ทางออกเบื้องต้นคือเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต เรือรบผิวน้ำ มูลค่าลำละประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับเรือดำน้ำ

มองในแง่ดีอาจจะนำมาทดแทนเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางจากพายุกลางอ่าวไทย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและนายสุทินก็จะต้องอธิบายต่อสังคม พร้อมให้ข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านถึงความคุ้มค่าของงบประมาณที่ถูกใช้ไป

นายสุทินยืนยันพร้อมชี้แจงทุกที่ โดยขณะนี้ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการเดินหน้าต่อโดยเอาเครื่องยนต์จากจีน หรือเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น มีได้มีเสียเหมือนกัน คิดว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

รมว.กลาโหมยอมรับไม่เป็นไปตามข้อตกลง แต่การตัดสินใจไม่ใช่เรื่องซื้อขายอย่างเดียว เพราะมีเรื่องความเป็นมิตรประเทศ และความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบกันด้วย

นั่นคือคำชี้แจงอธิบายจากนายสุทิน

โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจีนถูกสังคมคัดค้านมาตั้งแต่ต้น แต่รัฐบาลขณะนั้นซึ่งต่อยอดมาจากคณะรัฐประหารยังคงเดินหน้าต่อ

จนกระทั่งเกิดปัญหา และมีข้อบกพร่องมากมายดังที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้

ภาระจึงมาตกที่รัฐบาลปัจจุบันต้องมาตามแก้ปัญหา เพื่อหาทางออกอย่างประนีประนอมที่สุด

เพราะมีเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย

ข้าวตอกแตก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน