ปี 2567 ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวสำคัญ
รัฐบาลเศรษฐา ตั้งเป้าปี 2567 ต้องสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท
แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.3 ล้านล้าน ภายใต้จำนวนแตะระดับ 40 ล้านคน เทียบเท่าปี 2562 ก่อนโควิด และรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศ 1.2 ล้านล้าน จำนวนเดินทาง 200-220 ล้านคน/ครั้ง
ที่ผ่านมารัฐบาลกำหนดให้การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในนโยบาย “เรือธง”
มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเป็นนโยบาย แนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการวีซ่าฟรี จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงเทศกาล ส่งเสริมการเที่ยวเมืองรอง ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นต้น
ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยกว่า 28 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.2 ล้านล้านบาท
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เกิดเป็นรายได้มากกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ปีนี้รัฐบาลจึงเพิ่มกำลังแรงม้าเครื่องยนต์การท่องเที่ยว ไปสู่เป้าหมายสร้างรายได้ 3.5 ล้านล้าน หากเทียบกับปีที่ผ่านมาถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนมองว่า 3.5 ล้านล้าน ถึงจะยาก แต่ก็เป็นไปได้ หากกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ตรงตามกลุ่มชัดเจน เช่น นักท่องเที่ยวจากเอเชียที่ไทยได้ประโยชน์จากการเดินทางที่สะดวก และค่าใช้จ่ายต่อทริปต่ำ
ภาครัฐควรตั้งเป้าหมายดึงดูด เช่น สิทธิประโยชน์ที่จะได้ถ้ากลับมาเที่ยวซ้ำในกรอบเวลากำหนด เร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้สะดวก ปลอดภัย เชื่อมต่อไปทุกๆ ภูมิภาค
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพำนักระยะยาว อาจให้สิทธิประโยชน์เรื่องการจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ระบบประกันสุขภาพที่ครอบคลุม
รวมถึงจัดตั้งหน่วยงานสายด่วน รับเรื่องร้องเรียนแก้ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างจริงจัง เพื่อสร้างและส่งต่อบรรยากาศท่องเที่ยวที่เป็นมิตร เพิ่มโอกาสการกลับมาเที่ยวซ้ำ หรืออยู่พำนักในไทยนานขึ้น
ทั้งหมดเพื่อยกระดับให้การท่องเที่ยวไทยเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาว
มันฯ มือเสือ
